กรม สบส. หนุนอสม. อสต. ลุยคัดกรอง เคาะประตูบ้าน สอดส่อง ดูแล เฝ้าระวังโควิด-19 พื้นที่แนวชายแดน

กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) หนุนเสริมทัพทีมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) กว่า 8,000 คน ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน เฝ้าระวังและสอดส่องดูแลการลักลอบการเข้าประเทศของคนไทย และต่างชาติในพื้นที่ชายแดน

วันที่ 15 ธันวาคม 2563 ณ สถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี ตำบลแม่จะเรา อำเภอแม่ระมาด จังหวัดตาก นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ให้สัมภาษณ์ว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดยศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 2 ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก จัดโครงการ “รณรงค์ อสม. เคาะประตูบ้าน ต้านภัยโควิด – 19 ในพื้นที่ชายแดน เขตสุขภาพที่ 2 ปีงบประมาณ 2564” โดยมีนายธนิตพล ไชยนันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี จากสถานการณ์โรคโควิด-19 ในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาการลักลอบข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน จากทั้งการเดินทางไป – กลับของคนไทย และต่างชาติ ที่พักอาศัยอยู่ในต่างประเทศที่ถูกต้องตามกฎหมาย และการลักลอบเข้า – ออกประเทศ ผ่านทางช่องทางธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย ส่งผลทำให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่ ที่อาจก่อให้เกิดการระบาดของโรคโควิด – 19 อีกครั้ง ภายในประเทศ ซึ่งปัญหาดังกล่าว อาจเกิดจากลักษณะบริบทของพื้นที่ ที่ยากต่อการเข้าถึง จากด่านข้ามแดน และช่องทางธรรมชาติจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ในทุกภาคส่วนที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ไม่สามารถควบคุม กำกับดูแล เข้า – ออกประเทศ ในพื้นที่ชายแดน ที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเสี่ยง ที่ยังไม่ครอบคลุมทั่วถึง ดังนั้น การเฝ้าระวัง ป้องกัน ปัญหา โรคโควิด-19 ในพื้นที่ ต้องอาศัยกำลังสำคัญของเครือข่ายชุมชน ที่อยู่ในพื้นที่ เขตติดต่อชายแดน ไม่ว่าจะเป็น เครือข่ายผู้นำชุมชน เครือข่ายทหารตำรวจ เครือข่ายจิตอาสา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือข่ายอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และอาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว ที่เป็นเครือข่ายการทำงานคู่ขนานกัน โดยทั้ง 5 อำเภอ ของจังหวัดตาก ได้แก่ อำเภออุ้มผาง อำเภอพบพระ อำเภอท่าสองยาง อำเภอแม่ระมาด และอำเภอแม่สอด มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จำนวน 6,911 คน อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.)ในพื้นที่ และนอกพื้นที่คู่ขนาน จำนวนกว่า 900 คน ที่เป็นกำลังสำคัญในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทำงานประสานกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทั้งสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ภาครัฐอื่น ๆ และภาคเอกชน ในการเฝ้าระวัง คัดกรองกลุ่มเสี่ยง ที่ต้องกักกันแยกตัวสังเกตอาการ เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อ และทันต่อสถานการณ์การระบาดในชุมชนได้อย่างเข้มแข็ง

นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพได้สนับสนุนส่งเสริมให้อสม. และ อสต. ในพื้นที่ชายแดน ทำงานร่วมกันระหว่างผู้นำชุมชน เครือข่ายภาคประชาชน ผู้นำท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และสถานบริการในเขตพื้นที่ติดต่อชายแดน ในการลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน และให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่ เรียนรู้การจัดการสถานที่กักตัวของกลุ่มเสี่ยง ระบบการส่งต่อ และการเฝ้าระวัง พร้อมทั้งสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินงานให้กับอสม. และอสต.ให้เพียงพอ ในการป้องกันเฝ้าระวัง และสอดส่องดูแลการลักลอบเข้าประเทศของคนไทย และต่างชาติ ในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ชายแดนต่อไป

………………………………………..