กสร. นำทัพ จป. จัดกิจกรรมพัฒนาความเข้มแข็งเครือข่าย ช่วยเฝ้าระวังความปลอดภัยและโรคเนื่องจากการทำงาน

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานทุกระดับจากสถานประกอบกิจการในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กว่า 300 คน ร่วมกิจกรรมเนื่องในวันเจ้าหน้าที่ ความปลอดภัยในการทำงาน ประจำปี 2563 “จป.ทั่วไทย รวมใจภักดิ์ สานสังคมปลอดภัย สุขภาพอนามัยดี” เพื่อพัฒนาความเข้มแข็งเครือข่ายความปลอดภัยแรงงาน หวังลดการประสบอันตรายและโรคเนื่องจากการทำงานของลูกจ้าง

นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า ความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยที่ดีของผู้ใช้แรงงานถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนทรัพยากรมนุษย์ เพื่อการพัฒนาประเทศให้บรรลุเป้าหมาย มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ซึ่งเป็นเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงแรงงานภายใต้การนำของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับงานด้านความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของผู้ใช้แรงงาน จึงได้กำหนดมาตรการ Safety and Healthy Thailand ให้เป็น 1 ใน 9 นโยบายสำคัญ การจัดงานวันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานปีนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้มุ่งเน้นกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความเข้มแข็งเครือข่ายความปลอดภัยแรงงานอย่างยั่งยืน ด้วยปัจจุบันมีการรวมตัวเป็นสมาคมและชมรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานถือได้ว่าเป็นบุคลากรที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในสังคมแรงงาน อีกทั้งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง ตลอดจนภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการ ขับเคลื่อนที่สอดคล้องกับแนวทางประชารัฐได้เป็นอย่างดี

อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 12 พฤศจิกายน ของทุกปี ถือเป็นวันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้าง ลงวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2528 ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2528 ที่กำหนดให้สถานประกอบกิจการต้องจัด ให้มี “เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน” ทำหน้าที่ดูแลด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานประกอบกิจการ เพื่อลดการประสบอันตรายและโรคเนื่องจากการทำงานของลูกจ้าง ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่ 35 กิจกรรมประกอบด้วย การบริจาคโลหิตให้กับสภากาชาดไทย นิทรรศการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของชมรม/สมาคม/เครือข่ายความปลอดภัยในการทำงาน การสาธิตการเชื่อมใต้น้ำอย่างปลอดภัยโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และการอบรมโครงการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาความเข้มแข็งเครือข่ายความปลอดภัยแรงงานอย่างยั่งยืน โดยมีหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ มาตรฐานในการบริหารจัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หัวข้อสิทธิประโยชน์ที่ลูกจ้างพึงได้รับกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการทำงาน เป็นต้น โดยได้เชิญชวนเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานทุกระดับในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กว่า 300 คน ร่วมกิจกรรม ณ อาคารกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (ส่วนแยกตลิ่งชัน) กรุงเทพมหานคร