นอกจากการเป็นศูนย์การค้าใจกลางเมืองที่มีความครบเครื่องทุกเรื่องความสุขของคนไทยแล้ว เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ยังมุ่งมั่นเป็นศูนย์การค้าหัวใจสีเขียวขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนในสังคมและชุมชนโดยรอบ ภายใต้ความร่วมมือกับ หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ พนักงานจิตอาสาเอ็ม บี เค สปิริต (MBK Spirit) ล่าสุดได้เปิดงาน เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ อาสาสร้างสุขสู่ชุมชน จัดกิจกรรมการแข่งขัน “ฟุตซอลเยาวชนเชื่อมสัมพันธ์” ของทีมฟุตซอลเยาวชนในเขตปทุมวันรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ได้แก่ ทีมโรงเรียนปลูกจิต ทีมโรงเรียนสวนลุมพินี ทีมโรงเรียนวัดปทุมวนาราม และ ทีมเยาวชนชุมชนวัดดวงแข ส่งเสริมให้เยาวชนในเขตปทุมวันตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง การมีน้ำใจนักกีฬา การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ ลดปัญหาเด็กติดเกมและห่างไกลจากยาเสพติด ณ ลานกีฬาจารุเมือง
ภายในงาน เด็ก ๆ ต่างแสดงฝีเท้ากันอย่างเต็มที่ ซึ่งทีมโรงเรียนสวนลุมพินีและทีมเยาวชนชุมชนวัดดวงแขผ่านเข้ารอบชิง โดย ทีมเยาวชนชุมชนวัดดวงแข ครองแชมป์ชนะเลิศ ส่วนรางวัลดาวซัลโวที่มีผลงานการทำประตูมากที่สุดเป็นของ ด.ช.ทัชชวิน เทพหัสดิน ณ อยุธยา จากโรงเรียนสวนลุมพินี รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ได้แก่ ด.ญ.สุภานิชา น่านน้อง จากโรงเรียนปลูกจิต ซึ่งเป็นนักเตะผู้หญิงเพียงคนเดียวในวันนั้น และโชว์ฟอร์มสุดแกร่งเป็นที่ชื่นชอบของคนในสนาม
อีกไฮไลท์ของกิจกรรมที่เด็กๆ ให้ความสนใจอย่างมาก คือ คลินิกฟุตบอล ที่มีการเชิญดาวเตะระดับตำนานทีมชาติไทย โค้ชง้วน สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ร่วมด้วย อินซ์ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ กองกลางมืออาชีพจากสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มาพบปะพูดคุยอย่างใกล้ชิด สร้างแรงบันดาลใจ ฝึกสอนทักษะพื้นฐานที่สำคัญให้เหล่านักเตะรุ่นเยาว์กว่า 70 คนได้รับฟังและลงมือปฏิบัติจริง พร้อมร่วมชมและให้กำลังใจข้างสนาม
โค้ชง้วน-สุรชัย ผู้คร่ำหวอดในวงการฟุตบอล กล่าวว่า วันนี้มาแนะนำทักษะต่าง ๆ อาทิ การจับบอล การเลี้ยงและส่งบอล การเล่นเป็นทีม ฝึกวินัยการเป็นนักกีฬาที่ดีด้วยการหมั่นฝึกซ้อมหลังเลิกเรียนทุกวัน แบ่งเวลาในการเรียน และ เล่นเกมอินเตอร์เนตให้น้อยลง รวมทั้งให้ความสำคัญกับการดูแลโภชนาการ รับประทานอาหารครบทุกมื้อ
อินซ์ เชาว์วัฒน์ นักเตะดาวรุ่งจากสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กล่าวถึงการดูแลร่างกายให้พร้อมสำหรับการแข่งขันว่า การเป็นนักเตะอาชีพจะต้องเตรียมความพร้อมของร่างกายและสภาพจิตใจทั้งในสนามและนอกสนาม สิ่งสำคัญที่สุด คือ การฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนา โดยส่วนตัวผมเป็นคนรักและโตมากับฟุตบอล คุณพ่อคุณแม่ให้การสนับสนุนและมีโอกาสเข้ารับการฝึกซ้อมในอคาเดมีก็อยากฝากถึงผู้ปกครองให้ช่วยกันสนับสนุนน้อง ๆ ที่รักในกีฬาฟุตบอลเพื่อพัฒนาขึ้นไปเป็นนักเตะอาชีพ
ด.ญ.สุภานิชา น่านน้อง จากโรงเรียนปลูกจิต เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม กล่าวว่า เริ่มเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่อายุ 5 ขวบมีความฝันอยากเป็นนักฟุตบอลหรือนักฟุตซอลอาชีพ โดยคุณพ่อคุณแม่ให้การสนับสนุน มีวินัยในการฝึกซ้อมทุกวัน ทำให้มีพัฒนาการดีขึ้น ได้ถ้วยรางวัลมาแล้ว 3 รางวัล ครั้งแรกแข่งขันใกล้บ้าน ครั้งที่ 2 แข่งที่พัทยา ครั้งที่ 3 แข่งที่ฝรั่งเศสในฐานะสมาชิกของ PREMIER FOOTBALL ACADEMY (PFA) เมื่อปีที่แล้ว โดยส่วนตัวเวลาอยู่ในสนามจะหาจังหวะในการส่งบอลให้เพื่อนและหาช่องว่างให้เพื่อนมีจังหวะส่งบอลมาให้ ซึ่งในกิจกรรม เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ อาสาสร้างสุขสู่ชุมชน ครั้งนี้ได้เทคนิคเพิ่มเติมจากที่ไม่เคยรู้มาก่อนจากโค้ชง้วนและพี่อินซ์ โดยได้นำความรู้ดังกล่าวมาใช้ในการแข่งขัน ฟุตซอลเยาวชนเชื่อมสัมพันธ์ ด้วย กีฬาทำให้ได้เพื่อนใหม่ๆ ได้ประสบการณ์ในการลงแข่งแต่ละครั้ง มีการแบ่งเวลาทั้งเรียน ทั้งฝึกซ้อม และช่วยครอบครัวทำงานบ้าน
ส่วนดาวซัลโว ด.ช.ทัชชวิน เทพหัสดิน ณ อยุธยา จากโรงเรียนสวนลุมพินี กล่าวว่า โตขึ้นอยากเป็นนักฟุตบอลทีมชาติ ผมเล่นฟุตบอลมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ ตอนนี้อายุ 12 ปี การแข่งขันในวันนี้ก็ใช้ทักษะต่างๆ ที่ได้รับการฝึกสอนมาในการเล่น ก็รู้สึกดีใจและและภูมิใจสำหรับผลงานในวันนี้ อยากให้เอ็ม บี เค จัดกิจกรรมแบบนี้อีกครับ ถือเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ มีโค้ชง้วนและพี่อินซ์มาให้ความรู้ ทำให้ได้เทคนิคใหม่ๆ ในเรื่องการจ่ายบอล
กิติชัยพงษ์ ประยงค์หอม ผู้ดูแลทีมโรงเรียนสวนลุมพินี กล่าวว่า วันนี้น้องๆ ตื่นเต้นที่ได้เจอโค้ชง้วนและนักกีฬาอาชีพ เพราะปกติ เด็กๆ จะเจอแต่เพื่อน ๆ ในการแข่งขัน ขอบคุณเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ที่จัดกิจกรรมนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีของเด็ก ๆ ได้มีโอกาสไปแข่งขันตามรายการต่าง ๆ ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ ถือเป็นเวทีหรือการเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้แสดงออกและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ปลูกฝังให้เด็ก ๆเรียนรู้การให้อภัยและใช้เป็นผลงานในการต่อยอดเรียนต่อได้ ซึ่งการแข่งขันในวันนี้เน้นให้เด็ก ๆ เล่นกันด้วยความสนุก รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย โดยเด็กๆ จะใช้เวลาหลังเลิกเรียนในการฝึกซ้อม ซึ่งคณะครูผู้ฝึกสอนได้ศึกษาเทคนิคต่างๆ ในฟุตซอลลีกแล้วนำมาถ่ายทอดให้เด็ก ๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้น เด็กที่มีจุดเด่นก็จะผลักดันให้ไปอยู่ในสถานศึกษาที่มีทีมฟุตซอล เพื่อส่งเสริมโอกาสในการต่อยอดเข้ามหาวิทยาลัยด้วยโควต้านักกีฬา
วรพจน์ เพชรคงแก้ว นักฟุตซอลอาชีพและผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนชุมชนวัดดวงแข กล่าวว่า ทีมเยาวชนชุมชนวัดดวงแขมีเด็กๆ มาจากหลายโรงเรียน สำหรับการแข่งขันครั้งนี้เป็นโชคดีของเด็ก ๆ เพราะรายการแข่งขันฟุตซอลในรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปีมีค่อนข้างน้อย หัวใจสำคัญของการเล่นคือทีมเวิร์ค ซึ่งเด็ก ๆ เล่นและซ้อมด้วยกันมานาน ทำให้เวลาแข่งขันในสนามสามารถเข้าใจเกม แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ผู้ฝึกสอนวางแผนให้นิดหน่อย แต่เด็กๆ จะต้องไปแก้เกมเฉพาะหน้าในสนามด้วย ซึ่งจะบอกเด็ก ๆเสมอว่าการแพ้ชนะเป็นเรื่องของกีฬา มุ่งมั่นในเกมและต้องมีน้ำใจนักกีฬา
…………………………………………