รมว.แรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา “งานที่มีคุณค่า กับการพัฒนาแรงงานนอกระบบ” ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญและดูแลแก้ไขปัญหาแรงงานนอกระบบอย่างจริงจัง เนื่องจากแรงงานนอกระบบเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ กระทรวงแรงงานพร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนสานต่อนโยบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบให้ดียิ่งขึ้น
วันที่ 8 ตุลาคม 2561 เวลา 09.30 น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสัมมนา “งานที่มีคุณค่า กับการพัฒนาแรงงานนอกระบบ” ร่วมกับ นายปีร์กะ ตาปีโอละ (Mr.Pirkka Tapiola) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย โดยมีผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน ประธานสมาพันธ์แรงงานนอกระบบ นักวิชาการ ภาคประชาสังคม และผู้แทนแรงงานนอกระบบ จำนวนกว่า 165 คน เข้าร่วมงาน ณ ศูนย์การประชุม รัชนีแจ่มจรัส สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ถนนพิชัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอก อดุลย์ฯ กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับแรงงานนอกระบบเป็นอย่างมาก เห็นได้จากนโยบายที่ให้ความสำคัญกับการดูแลและแก้ไขปัญหาให้กับแรงงานนอกระบบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งกองคุ้มครองแรงงานนอกระบบขึ้นใหม่ในกระทรวงแรงงาน เพื่อดูแลแรงงานนอกระบบโดยตรง และการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี ในการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ เนื่องจากรัฐบาลตระหนักดีว่าแรงงานนอกระบบทุกกลุ่มอาชีพ อาทิ ผู้รับงานไปทำที่บ้าน หาบเร่/แผงลอย ผู้ขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ลูกจ้างทำงานบ้าน รวมทั้งแรงงานในภาคเกษตร ล้วนมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตามเนื่องจากแรงงานนอกระบบมีความหลากหลายและมีจำนวนมากกว่า 24 ล้านคน ย่อมต้องมีปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนางานอาชีพอย่างแน่นอน ซึ่งกระทรวงแรงงานได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และจะทำต่อไปจนกว่าพี่น้องแรงงานจะมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้พอเพียงสำหรับการดำรงชีวิต และได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่จำเป็นอย่างทั่วถึง สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย
“การสัมมนาในวันนี้ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นโอกาสที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะได้ปรึกษาหารือในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของแรงงานนอกระบบ เพื่อรณรงค์ให้แรงงานนอกระบบทุกสาขาอาชีพ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันพัฒนากฎหมาย นโยบาย มาตรการ รวมถึงแนวปฏิบัติ อันจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานนอกระบบให้ดียิ่งขึ้นต่อไป” รมว.แรงงาน กล่าวในท้ายสุด