รมว.อว. จัดตั้ง “อว.ส่วนหน้า” ขับเคลื่อนไทย : สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี

“เอนก เหล่าธรรมทัศน์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ตั้ง “อว.ส่วนหน้า” ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันสนองนโยบายนายกรัฐมนตรี นำอาจารย์ นักวิจัยออกจากห้องเรียนห้องแลปไปทำงานจริง แก้ปัญหาจริงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ สนธิกำลังมหาวิทยาลัยของรัฐ มหาวิทยาลัยในกำกับ มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล และหน่วยงานวิจัย แสดงฝีมือให้สังคมเห็นว่า อว. มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในอนาคต สั่งเร่ง 5 โปรเจคใหญ่เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี

เมื่อวันที่ 23 กันยายน ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวในการเป็นประธานการประชุมเชิงปฎิบัติการเรื่อง “ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันเพื่อพัฒนาจังหวัดด้วยอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.)” ว่า ขณะนี้ อว. ได้จัดตั้ง “อว.ส่วนหน้า” หรือ หน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าของ อว. ตามนโยบายโครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน ของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดย อว. ส่วนหน้า มี 2 ระดับ คือ ส่วนกลาง มีปลัดกระทรวง อว. เป็นประธาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เป็นที่ปรึกษา โดยส่วนหน้าแบ่งเป็นระดับจังหวัด มีตัวแทนมหาวิทยาลัยในแต่ละจังหวัดขับเคลื่อน ระดับกลุ่มจังหวัดมีเครือข่ายมหาวิทยาลัย 9 เครือข่ายเป็นตัวขับเคลื่อน ซึ่ง อว. ส่วนหน้าทั้งระดับจังหวัดและระดับกลุ่มจังหวัดจะทำงานร่วมกันและเชื่อมโยงกับส่วนกลาง ทั้งนี้ การดำเนินงาน อว. ส่วนหน้าจะช่วยให้อาจารย์ นักวิจัย ออกจากห้องเรียนห้องแลปไปทำงานจริงและแก้ปัญหาจริงในพื้นที่ต่างๆ

รมว.อว. กล่าวต่ออีกว่า การทำงานของ อว. ส่วนหน้า จะเป็นการผสมผสานและสนธิกำลังของหน่วยงานต่างๆ ใน อว. เกิดเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานวิจัย ในระบบ อววน. ทั้งหมด ซึ่งเป็นการปรับการทำงานแบบทำคนเดียว เปลี่ยนเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างหลายๆ หน่วยงาน มีการทำงานร่วมกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ มหาวิทยาลัยเอกชน มหาวิทยาลัยราชภัฏ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล และหน่วยงานวิจัยใน อว.

“โครงการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน เป็นโอกาสทอง ที่หน่วยงานจะได้แสดงฝีมือการทำงาน และทำให้สังคมและรัฐบาลเห็นว่าการพัฒนาประเทศจากนี้ไป ล้วนต้องการความรู้ งานวิจัยและนวัตกรรม ซึ่ง อว. มีพร้อม จากในอดีตที่มีเพียง สภาพัฒน์ฯ เป็นผู้มีบทบาทในการพัฒนาประเทศ แต่ปัจจุบัน อว. สามารถเข้ามาสนับสนุนการทำงานของสภาพัฒน์ฯ ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี เพราะองค์ความรู้และข้อมูลที่ อว. มีนั้นเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญของประเทศ” รมว.อว. กล่าว และว่า นอกจากการทำงานของ อว. ส่วนหน้าแล้ว อว. ยังมี 5 โครงการสำคัญที่จะดำเนินการให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 1 ปี คือ 1.โครงการ อว. จ้างงาน (3,000 ตำบล) และ โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย 2. เมกกะแฮกกาธอน (Mega-Hackathon) ให้เยาวชนได้ช่วยคิดแก้ปัญหานโยบาย ใช้เครื่องมือไอทีและโลกไซเบอร์มาช่วยคิดและช่วยให้เกิดแผน 3.การมองอนาคต (Foresight) คิดแผนอนาคต ครอบคลุมประเด็นสังคม-สิ่งแวดล้อม แต่ละจังหวัดใน 3-5 ปี 4.การพัฒนาบุคลากรให้เข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) โดยเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลให้เยาวชนจำนวน 250,000 คน ภายใน 1 ปี และ 5.การพัฒนาคนในวัยเกษียณให้เป็นพลัง เนื่องจากจะเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศในอนาคตอันใกล้ อาจพิจารณาแนวทางการปรับปรุงการเรียนรู้และทักษะสร้างงาน สร้างผู้สูงอายุที่มีสุขภาพดีและเป็นประโยชน์กับประเทศ

……………………………………………………..