ที่ภูมิภูเบศร จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2563 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเส้นทางการท่องเที่ยวจังหวัดปราจีน เพื่อสำรวจความพร้อมรองรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโต หลังปลดล็อคการท่องเที่ยว โดยมี ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และคณะผู้บริหารโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ให้การต้อนรับ
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในฐานะ รมว.ท่องเที่ยวฯ ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในช่วงปีที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้ 18% ของ GDP และตั้งเป้าให้เติบโต 20% ของ GDP ในปี 2563 แต่เนื่องจากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวชะงักไป แต่เราก็ยังคงพยายามที่จะทำให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศให้ได้ และหลังปลดล็อคการเดินทาง เราจะมีความพร้อมและมั่นใจในสถานการณ์การระบาด
“ดังนั้นเราจึงต้องเตรียมพร้อมการรองรับการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างรายได้ให้ประเทศไทย โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีศักยภาพในการพัฒนาทั้งเรื่องสมุนไพร และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อีกทั้งยังเปรียบเสมือนตักศิลาของการแพทย์แผนไทย เป็นที่พึ่งให้ประชาชนและประเทศได้” นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้านพญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ภูมิภูเบศร เป็นอีกหน่วยบริการหนึ่งของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และยกให้เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของการท่องเที่ยวจังหวัดปราจีน เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ให้นักท่องเที่ยวได้แวะมาเรียนรู้ มุ่งเน้นการให้ความรู้สู่ชุมชนเพื่อการดูแลสุขภาพที่ยั่งยืน สามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจ สร้างอาชีพ ด้วยศักยภาพในพื้นที่ที่เรามี ประกอบด้วย พื้นที่ธรรมชาติ เรือนพิพิธภัณฑ์หมอพลอย พิพิธภัณฑ์ไหที่แสดงถึงความมั่นคงทางสุขภาพสมัยก่อน สวนสมุนไพรตามกลุ่มโรคและรสยาให้ได้เรียนรู้และสร้างประสบการณ์ในการทำยา อาหารสมุนไพร อีกทั้งยังเชื่อมโยงการทำงานกับชุมชน ช่วยสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น เช่น ตลาดนัด OTOP ท้องถิ่น กิจกรรมลานเพลิน รวมถึงการจัดงานระดับนานาชาติ เช่น มหกรรมสุขภาพอาเซียน
นอกจากนี้ ภูมิภูเบศร ยังสร้างความเข้มแข็งด้านสุขภาพ และสมุนไพรผ่านการอบรม ที่ผ่านมา ได้ให้การอบรมความรู้ด้านสมุนไพรเพื่อสุขภาพแก่หน่วยงาน องค์กรด้านสาธารณสุข ชุมชน สถาบันการศึกษาทั้งไทยและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาประวัติศาสตร์หมอยาไทยโบราณให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ และอนาคตจะพัฒนาให้เป็นพื้นที่แห่งการ พักผ่อน ศึกษาเรียนรู้อย่างครบวงจร เพื่อเป็นห้องรับแขกที่สำคัญของประเทศต่อไป ผอ.โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวทิ้งท้าย
……………………………………………