เมื่อวันที่ 25 กค.63 ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงารายงานว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา โดยมีนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง สวนปาล์ม สวนผลไม้ ข้าวไร่ นาข้าว ให้การต้อนรับจำนวนมาก ส่วนคณะติดตามรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ประกอบด้วยนายสุชาติ สินรัตน์รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดี กรมทรัพย์สินทางปัญญา นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสส.พังงา
จังหวัดพังงามีพื้นที่ทำการเกษตรจำนวน 1, 128,824 ไร่ หรือร้อยละ 43.30 ของพื้นที่ มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ มีกระจายในทุกอำเภอ
สำหรับปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอย่างหนึ่งของจังหวัดพังงา ที่มีพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 261,668 ไร่ ให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันปีละประมาณ 701,746 ตัน มีโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันในพื้นที่ จำนวน 3 โรง และลานเท จำนวน 130 แห่ง ปาล์มน้ำมันจึงเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีสำคัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องเกษตรกรชาวพังงาเป็นอย่างยิ่ง ในห้วงระยะเวลาที่ผ่านมาทุกฝ่ายต่างให้ความสำคัญกับเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอย่างต่อเนื่อง ทั้งนโยบายส่งเสริมและดูแลด้านราคาจากรัฐบาลหน่วยงานในพื้นที่ให้ความรู้ในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตปาล์มน้ำมันของเกษตรกร การส่งเสริมการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพาะปลูก การปรับปรุงสายพันธุ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ส่งเสริมการทำเกษตรแบบแปลงใหญ่ ส่งเสริมการรวมกลุ่มและสร้างเครือข่ายเกษตรกรพัฒนาเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม และมีแนวโน้มการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี และที่สำคัญนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ดำเนินมาตรการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน จึงป็นมาตรการหนึ่งที่จะทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน มีความมั่นคงทางด้านรายได้ มีผลต่อคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของเกษตรกรที่ดีขึ้นโดยตรง
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลของโครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 2562-2563 ที่ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดพังงา ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าว อาทิ โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1 การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดพังงา
การยางแห่งประเทศไทย Rubber Authority of Thailand
1. พื้นที่สวนยางในจังหวัดพังงามีประมาณ 706,837 ไร่ เนื้อที่เปิดกรีด 566,972 ไร่ (ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร)
2. เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งพื้นที่ปลูกยาง กับ กยท.จ.พังงา (ข้อมูล ณ 20 กรกฎาคม 2563)
– เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน (บัตรเขียว) เจ้าของสวน 17,399 ราย เนื้อที่ 252,619 ไร่ เกษตรกรแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยาง (บัตรชมพู) เจ้าของสวน 10,632 ราย เนื้อที่ 175,776 ไร่
ผลการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 1 (เกษตรกชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลพื้นที่ปลูกยาง ก่อนวันที่ 12 สิงหาคม 2562)
เกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมโครการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 1 (คปร) กับ กยท.จ.พังงา(ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2563 เกษตรกรกรที่ขึ้นทะเบียน บัตรเขียว และบัตรชมพู 20,134 ราย 279,719.18 ไร่ ผ่านการรับรองสิทธิ์ 20,127 ราย 279,639.53 ไร่
ผลการดำเนินการโอนเงินของ ธ.ก.ส. ให้เกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดพังงา(ข้อมูล ณ วันที่ 20 กรกฎาคม 2563) เจ้าของสวน เป็นเงิน342,637,162.75 บาท คนกรีดยาง เป็นเงิน16,138,803.62 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 358,775,966.37 บาท
ขณะที่สวนปาล์มน้ำมันในจังหวัดพังงาทุกอำเภอ 15,836 ครัวเรือน 27,062 แปลง 223,231.68 ไร่ (ข้อมูล ณ 20 กค.2563) เกษตรกรมีสิทธิ์ตามโครงการ 14,650 ครัวเรือน 210,158.81 ไร่ สรุปผลการช่วยเหลือเกษตรกร 14,435 ราย จำนวนเงิน 240,306,487.20 บาท และโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2562/63 รอบที่ 1 เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ เป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ปีการผลิต 2562/63 รายละเอียดดังนี้ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตรของจังหวัดพังงา จำนวน 166 ครัวเรือน พื้นที่ 693.49 ไร่ เกษตรกรที่มีสิทธิ์ตามโครงการ จำนวน 165 ครัวเรือน พื้นที่ 676.23 ไร่ สำหรับอีก 1 ครัวเรือนที่เหลือไม่เข้าหลักเกณฑ์ เนื่องจากไม่ได้เพาะปลูกข้าวในรอบปีนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำนักงานใหญ่ โอนเงินช่วยเหลือเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรจำนวน 165 ราย เป็นเงิน 764,912.55 บาท
นอกจากนั้น รนย.และรมว.จุรินทร์ฯยังได้มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ในฐานะผู้ผลิตทุเรียนสาลิกาพังงากว่า 20 รายด้วย นายพงษ์ศักดิ์ ประทีป ผู้สื่อข่าวจังหวัดพังงา