AIS ผนึก อมตะ ขยายความร่วมมือยกระดับSmart City และการนำ 5Gเสริมเขี้ยวเล็บอมตะซิตี้ชลบุรีสร้างแรงดึงดูดนักลงทุนทั่วโลกสร้างฐานการลงทุนในพื้นที่ EEC กระตุ้นชีพจรเศรษฐกิจประเทศไทย 

24 กรกฎาคม 2563: เอไอเอสผู้นำเครือข่าย 5G ชั้นนำระดับภูมิภาค และอันดับ 1ในไทย จับมือ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)ผู้พัฒนาเมืองอุตสาหกรรมชั้นนำแห่งเอเชียเดินหน้าลงนามสานต่อพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ขยายความร่วมมือในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ไปอีกขั้นนำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญอย่างเทคโนโลยี AIS 5G และโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่พร้อมรองรับการทำโซลูชั่นส์ Smart City และการสร้างนวัตกรรมดิจิทัลที่ทันสมัยเข้าไปยกระดับการบริหารงานและการผลิตเพิ่มเติมในอมตะซิตี้ ชลบุรีเพื่อพัฒนาให้อมตะซิตี้ชลบุรี ยกระดับสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะที่พร้อมรับความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจการผลิต และการลงทุน ตามแผนเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0หลังได้ลงนามจัดตั้งบริษัทร่วมทุน(Joint Venture) ภายใต้ชื่อ “บริษัท อมตะ เน็ทเวอร์ค จำกัด” นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญเข้าไปเสริมศักยภาพอมตะซิตี้ ชลบุรีตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา

นายสมชัยเลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า“ตั้งแต่ปี 2559 เอไอเอส และอมตะ ได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการนำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญและนำนวัตกรรม IoT เข้าไปสนับสนุนการบริหารงาน การผลิตและระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่อมตะซิตี้ชลบุรี ซึ่งวันนี้เมื่อเทคโนโลยี 5G มีความพร้อมและได้กลายเป็น The Real New Normal ด้านเทคโนโลยีที่ทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง ทั้งด้านคุณสมบัติด้านความเร็ว ความเสถียรและการรองรับอุปกรณ์จำนวนมาก เอไอเอส ในฐานะผู้นำเครือข่าย 5G ระดับภูมิภาค และเป็นรายแรกรายเดียวในอาเซียนที่มีเครือข่าย 5G ครอบคลุมเต็มพื้นที่ 100% นิคมอุตสาหกรรมในEECจึงได้ขยายความร่วมมือกับอมตะ คอร์ปอเรชัน ไปอีกขั้นเพื่อสร้างเมืองอัจฉริยะที่สมบูรณ์แบบ โดยนำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง 5G ทั้ง 5G Stand Alone (5G SA)และ 5G Network Slicing รวมถึงโครงข่ายใยแก้วนำแสง (FiberOptic) และ ICT Infrastructure เข้าไปยกระดับการทำงานในอมตะซิตี้ชลบุรี ซึ่งมีโรงงานตั้งอยู่มากกว่า750แห่งเพื่อเสริมขีดความสามารถด้านผลิตให้กับภาคอุตสาหกรรมไทยให้ทัดเทียมเวทีโลกตลอดจนพัฒนาโซลูชั่นส์ที่เอื้อต่อการสร้างเมืองอัจฉริยะที่ทันสมัยทั้งด้านการบริหารจัดการการใช้ทรัพยากร การขนส่ง และระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าด้วยความแข็งแกร่งของเราทั้งคู่ และด้วยวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในการนำ5G Digital Infrastructure มาพัฒนา Smart City และฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศไทยจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางการผลิตและแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมพร้อมดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในพื้นที่EEC และผลักดันให้พื้นที่เศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้กลายเป็นฮับอุตสาหกรรม4.0 หลักของภูมิภาคได้อย่างแน่นอน”

นายวิกรมกรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อมตะคอร์ปอเรชัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาอมตะได้ร่วมมือกับเอไอเอส จัดตั้งบริษัท อมตะเน็ทเวอร์ค ดำเนินธุรกิจการวางโครงข่ายใยแก้วนำแสง ที่อมตะซิตี้ ชลบุรี  ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่สำคัญสำหรับอมตะในการยกระดับนิคมอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะหรือ AMATASmart City การลงนามขยายความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีในการนำเทคโนโลยี 5G มาใช้เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมพร้อมทั้งขยายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไปยังนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ใน EEC  พื้นที่ EEC ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะเชื่อมโยงเส้นทางการค้า -การลงทุนของภูมิภาคอาเซียนเข้ากับตลาดโลก อมตะจึงมีความตั้งใจที่จะพัฒนาอมตะซิตี้ชลบุรี ไปสู่มาตรฐานสากล และก้าวสู่การเป็น Smart City อย่างสมบูรณ์แบบพร้อมทั้งเป็นต้นแบบให้กับนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกให้สนใจมาสร้างฐานการผลิตในพื้นที่ EEC วันนี้ เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายความร่วมมือกับเอไอเอสนำเทคโนโลยีอัจฉริยะ 5G และนวัตกรรมใหม่ๆ มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต และความสามารถในการแข่งขันให้โรงงานอุตสาหกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้พลังงาน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทยก้าวทันประเทศชั้นนำอย่างจีน เกาหลีใต้ หรือญี่ปุ่น ที่ได้นำ 5G มาเพิ่มมูลค่าไปแล้ว”

สำหรับ บริษัทอมตะ เน็ทเวอร์ค จัดตั้งขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1ล้านหุ้นเป็นเงิน 100 ล้านบาท โดย บริษัท แอดวานซ์ บรอดแบนด์เน็ทเวอร์ค จำกัด (ABN) ถือหุ้น 60%คิดเป็นเงินลงทุนรวม 60 ล้านบาท และบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชันจำกัด (มหาชน) (AMATA) ถือหุ้น 40%คิดเป็นเงินลงทุนรวม 40 ล้านบาท

………………………………………………………