รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ความเห็นชอบผลการประชุมผู้แทนสภาเภสัชกรรม กลุ่มผู้สมัครเลือกตั้งกรรมการสภาเภสัชกรรมและคณบดีคณะเภสัชศาสตร์จากมหาวิทยาลัย 6 แห่ง กำชับให้ดำเนินการต่อ เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติยา พ.ศ. …. มีความสมบูรณ์เหมาะสม คุ้มครองประชาชน และส่งเสริมการผลิตยาในประเทศ
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ได้มอบหมายให้นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เชิญผู้แทนสภาเภสัชกรรม ผู้สมัครเลือกตั้งกรรมการสภาเภสัชกรรม คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย 6 แห่ง สมาคมวิชาชีพและอื่น ๆ หารือในประเด็นข้อกังวลต่อร่างพระราชบัญญัติยา พ.ศ. …. เมื่อบ่ายวันที่ 4 กันยายน 2561 นั้น ได้ข้อสรุปดังนี้
1.ที่ประชุมเห็นพ้องว่าเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นประโยชน์และเห็นด้วย 2.ประเด็นที่ขอปรับแก้คือ มาตรา 22 ให้กลับไปใช้ข้อความเดิมตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 คือการจ่ายยาตามวิชาชีพต่าง ๆ ได้คงเดิม ส่วนพยาบาลในหน่วยงานรัฐสามารถจ่ายยาได้เหมือนเดิมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และการโฆษณายาใน มาตรา 137 ให้ใช้ตาม พ.ร.บ. ปี พ.ศ. 2510
3.ประเด็นที่ปรับแก้ กรณี นิยามตามมาตรา 4 ให้แบ่งประเภทยาตามหลักสากล เป็นยาตามใบสั่งยา (Prescription only) ยาจ่ายโดยเภสัชกร (Pharmacist only) ยาสามัญประจำบ้าน และกำหนดร้านขายยา ประเภท ขย.2 ให้ชัดเจน โดยขอให้ไปทำความชัดเจนอีกครั้ง 4.ประเด็นย่อยอื่น ๆ เช่น ยาออนไลน์ การเรียงลำดับกฎหมายขอให้ปรับให้ถูกต้อง โดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขจะนำไปเสนอคณะกรรมการร่างพระราชบัญญัติยา พ.ศ. …. ต่อไป
“ขอให้ผู้แทนที่ร่วมประชุมช่วยสื่อสารไปยังสมาชิกเครือข่ายเพื่อทำความเข้าใจให้ถูกต้อง อย่างไร
ก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขยินดีที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางประสานระหว่างคณะกรรมการ ร่างพระราชบัญญัติยา กับสหวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อให้ได้กฎหมายที่มีความสมบูรณ์ทันสมัย เหมาะสม คุ้มครองประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการผลิตยาในประเทศ” ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกลกล่าว