79 ปี “อภัยภูเบศร” ถอดบทเรียน โควิด-19 เล็งสร้างความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ ด้วยสมุนไพร เสริมความมั่นคงแก่มวลมนุษยชาติ ชู “ภูมิภูเบศร” แหล่งเรียนรู้สมุนไพรของประเทศ

79 ปี “อภัยภูเบศร” ถอดบทเรียน โควิด-19 เล็งสร้างความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ ด้วยสมุนไพร เสริมความมั่นคงแก่มวลมนุษยชาติ ชู “ภูมิภูเบศร” แหล่งเรียนรู้สมุนไพรของประเทศ รองรับนักท่องเที่ยวรักสุขภาพทั้งไทยและต่างชาติ

ในโอกาสครบรอบ 79 ปี ในวันที่ 24 มิถุนายน 2563 โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และเป็นช่วงที่ประเทศไทย และทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 โรงพยาบาลฯ จึงได้ระดมสมอง ถอดบทเรียนจากสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อหาทางออกในการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ และพัฒนาองค์กรด้วยกลยุทธ์ 7S และเชื่อว่าภูมิปัญญาด้านสุขภาพของไทยจะเป็นทางออกของประเทศและมวลมนุษยชาติ เมื่อโลกต้องเผชิญวิกฤตร่วมกัน

พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า ปีนี้เป็นปีที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ครบรอบ 79 ปี ของการสถาปนา หากเปรียบเป็นบุคคลก็เท่ากับผู้สูงวัยคนหนึ่ง แต่เป็นผู้สูงวัยที่แข็งแรง และก้าวไปอย่างมั่นคง และยังเป็นปีที่เราต้องรับมือกับวิกฤตของโลก นั่นคือ โควิด-19 ซึ่งไม่ได้เป็นแค่วิกฤตทางด้านสุขภาพของโลกเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน ทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของทุกประเทศ แต่เป็นที่น่ายินดีว่า ประเทศไทยมีความเข้มแข็งด้านสุขภาพเป็นทุนเดิม และได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 2 ของโลกในการจัดการกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้

พญ.โศรยา กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ผ่านมา ทำให้อภัยภูเบศรเองก็ต้องปรับกลยุทธ์หลายอย่าง โดยหลักๆ ใช้หลัก 7s เพื่อจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าว คือ Strategy วางกลยุทธ์, Structure จัดการโครงสร้าง, System ระบบ, Style รูปแบบการบริหาร, Staff บุคลากร, Skill ความเชี่ยวชาญ และ Share value การสร้างค่านิยมองค์กร จากโควิด-19 ทำให้เราได้ “บทเรียน 5 ข้อ” ที่เราเรียนรู้จากการทำงานในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาคือ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง ดำเนินการทุกอย่างให้รวดเร็ว วิเคราะห์รอยรั่วและรีบอุดรอยรั่วนั้น ทำงานเชิงรุกร่วมกับชุมชนและสังคม และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นเรื่องใหม่ จะทำให้เร็วได้ ต้องดึงเอาทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ โรงพยาบาลเรานับว่าโชคดีที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลสมุนไพรอย่างเป็นระบบ เมื่อเกิดวิกฤตจึงสามารถนำมาใช้ได้ทันท่วงที เราเป็นโรงพยาบาลแรกที่ชูการใช้ฟ้าทะลายโจรเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ที่มีความเสี่ยง และก็นำมาใช้จริงในผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยที่ต้องสอบสวนโรค หรือ patient under investigation

นอกจากนั้น ก็มีการจัดทำคู่มืออาหารสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน และถ่ายทอดองค์ความรู้พื้นฐานด้านการแพทย์และสมุนไพรผ่านเพจสมุนไพรอภัยภูเบศรทุกวัน พบว่าประชาชนมีความสนใจมาก ซึ่งหลังจากโควิด-19 ซาลง ทำให้ผู้บริหารโรงพยาบาลกลับมาระดมสมองและปรับเข็มมุ่งของโรงพยาบาลในระยะถัดไป ซึ่งจะมุ่งเน้นการสร้างความมั่นคงทางสุขภาพด้วยภูมิปัญญาไทย ซึ่งตอนนี้ทางโรงพยาบาลได้เริ่มดำเนินการในกลุ่มเจ้าหน้าที่ก่อน โดยจัดให้มีการปลูกผักสวนครัวกินเอง เน้นผักที่เสริมภูมิต้านทาน เพราะโควิดจะไปเมื่อไหร่ไม่รู้ เราจึงต้องเตรียมการร่างกายให้แข็งแรงตลอด ในส่วนของประชาชนก็ได้ให้โจทย์กับภูมิภูเบศรไปว่าทำอย่างไรให้ประชาชนพึ่งตนเองได้ด้วยภูมิปัญญาด้านสุขภาพทั้งอาหารและยาสมุนไพร ซึ่งทางภูมิภูเบศรก็ได้ไปจัดทำคอร์สอบรมมา เน้นการสร้างความเข้าใจ ความรู้และทักษะการเสริมสร้างสุขภาพ และลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ ประชาชนผู้สนใจก็สามารถมาเรียนรู้ได้

“อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องเร่งทำคือ การวิจัยสมุนไพร เพื่อเพิ่มโอกาสในการใช้รับมือกับโรคที่กำลังเป็นปัญหา ล่าสุดเราเพิ่งส่งสารสกัดกระชายให้กับมหาวิทยาลัยมหิดล และพบว่าช่วยฆ่าเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ 2019 ได้ 100% เนื่องจากเราสืบค้นจากข้อมูลภูมิปัญญาดั้งเดิมที่มีการนำกระชายมาบรรเทาอาการหวัด และยังใช้แก้อาการจมูกไม่ได้กลิ่น ซึ่งเป็นอาการแสดงหนึ่งของการติดเชื้อไวรัสด้วย สิ่งเหล่านี้คือทิศทางที่จะเกิดขึ้นในการทำงานของเรา” ผอ.โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว

……………………………………………………………