กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านชุมชนท่าสะอ้าน (เตาอิฐ) ที่ร้องทุกข์ กรณีอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาท ให้ได้รับความเป็นธรรม
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563 ณ ศาลาประชาคมชุมชนท่าสะอ้าน (เตาอิฐ) นายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ประธานคณะทำงานฯ ลงพื้นที่ร่วมกับ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม (ผู้ทรงคุณวุฒิ) นายบัญญัติ วงค์สว่าง ยุติธรรมจังหวัดสงขลา กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภาค 9 จังหวัดสงขลา สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดสงขลา และเจ้าหน้าที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าพบพระครูอุทัยวินัยกิจ เจ้าอาวาสวัดอุทัยธาราม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ร้องทุกข์ กรณีอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาท
สืบเนื่องจาก ชาวบ้านชุมชนท่าสะอ้าน (เตาอิฐ) จ.สงขลา จำนวน 200 คน ได้ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กรณีอาศัยอยู่ในที่ดินพิพาท ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2507 ต่อมาศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาเมื่อปี พ.ศ. 2529 และ ปี พ.ศ. 2557 วัดได้ออกโฉนดที่ดินเป็นที่ธรณีสงฆ์วัดอุทัยธาราม และให้ชาวบ้านมาทำสัญญาเช่าที่ดินกับวัด มีชาวบ้าน 100 ครัวเรือนยินยอมต่อสัญญาเช่า ส่วนอีก 200 ครัวเรือน ไม่ยินยอมต่อสัญญาเช่า เนื่องจากได้อยู่อาศัยในที่ดินก่อนศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ที่ดินเป็นของวัด โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสงขลา (ผู้รับมอบอำนาจ) ได้ฟ้องคดีขับไล่ชาวบ้านออกจากที่ดิน 13 ราย ศาลจังหวัดสงขลามีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 ให้ขับไล่ชาวบ้านทั้ง 13 รายออกจากที่ดิน และให้ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมทั้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดิน ชาวบ้านจึงได้ยื่นอุทธรณ์ และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ชาวบ้านจึงประสงค์ขอความช่วยเหลือในการทำสัญญาเช่าที่ดิน โดยวัดเรียกเก็บค่าเช่าย้อนหลังตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2557 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเหตุให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ไม่มีเงินชำระค่าเช่าย้อนหลัง จึงขอความช่วยเหลือ และกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้แต่งตั้งคณะทำงานฯ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ในวันนี้ คณะทำงานแก้ไขปัญหาฯ สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ด้วยดี โดยวัดยินยอมให้ชาวบ้านผ่อนชำระค่าเช่าย้อนหลัง ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2557 จนถึงปัจจุบัน ส่วนค่าเช่าปัจจุบันให้คิดตามเกณฑ์ที่มหาเถรสมาคมกำหนด และยินยอมให้ชาวบ้านทำสัญญาเช่าที่ดินระยะยาว 1 ปี หรือ 3 ปีได้
……………………………………………………………………………..