ป.ป.ส. ร่วมกับ บช.ปส. และหน่วยงานภาคี เผาทำลายกัญชาของกลางที่จับยึดได้ จำนวนกว่า 13 ตัน หลังตรวจพบใช้ประโยชน์ไม่ได้ เพราะมีสารปนเปื้อนประเภทสารเคมีกำจัดศัตรูพืช กลุ่มโลหะหนักเกินมาตรฐาน มีเชื้อรา พร้อมเดินหน้าสนับสนุนกัญชาของกลางที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างต่อเนื่อง
วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2563 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เป็นประธานในพิธีเผาทำลายกัญชาของกลางที่ไม่สามารถนำไปใช้ในการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ได้ โดยมี พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองเลขาธิการ ป.ป.ส., พ.ต.ท.ไพศิษฎ์ สังคหะพงศ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส., ผู้บริหารจากหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ รองผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, พล.ต.ต.ภาณุวิชญ์ ทองยิ้ม ผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, พ.ต.อ.วศิน สาทรกิจ รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, พ.ต.อ.หญิง สุนันท์ ฟูปลื้ม นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ, นายดิสพล ยิ้มขลิบ ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน, ดร.เจริญดี ปิงสุทธิวงศ์ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ชำนาญการพิเศษ สำนักยาและวัตถุเสพติด กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ , นายเดชา วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร และนางอรวรรณ วงศ์สวาสดิ์ เภสัชกรชำนาญการพิเศษ กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเผาทำลายกัญชาของกลาง น้ำหนัก จำนวนรวม 13 ตัน ณ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า กัญชาที่นำมาเผาในครั้งนี้ เป็นกัญชาของกลางน้ำหนักรวม 13 ตัน ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ขออนุญาตครอบครอง ซึ่งได้มีการตรวจพิสูจน์แล้วพบว่าไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ได้ ประกอบกับไม่มีผู้ขอไปทำการศึกษาวิจัย เนื่องจากมีสารปนเปื้อนทั้งเคมีกำจัดศัตรูพืชและโลหะหนักเกินค่ามาตรฐาน อีกทั้งยังมีเชื้อรา โดยการเผาทำลายนี้เป็นครั้งที่ 2 ซึ่งก่อนหน้าที่ได้เผาทำลายไปเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2562 น้ำหนักจำนวน 10 ตัน รวมทั้งสิ้นที่เผาทำลายทั้งหมดน้ำหนักจำนวน 23 ตัน”
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวต่อ ผลจากการตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ว่ากัญชาที่จับยึดได้ไม่ว่าจะห่อหุ้มด้วยแผ่นฟอยล์ใด ๆ เช่น ม่วง แดง ทอง เงิน หรือห่อด้วยแผ่นพลาสติกทั้งที่มีด้ายแดงหรือไม่มี ล้วนลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านด้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งหมดพบมีสารปนเปื้อนไม่ว่าจะเป็นสารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือโลหะหนักมากเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัยทั้งสิ้น จึงเท่ากับผู้ใช้/ผู้เสพกัญชาดังกล่าวได้นำสารเคมีเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกาย และจะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงขอแนะนำให้ผู้ใช้/ผู้เสพได้แสดงตัวเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา
เลขาธิการ ป.ป.ส. ทิ้งท้าย การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่มีนโยบายผ่อนปรนให้ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์และการศึกษาวิจัยเท่านั้น โดยสำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงเดินหน้าขอใช้ประโยชน์จากกัญชาที่จับยึดได้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาใช้ในการสนับสนุนให้แก่หน่วยงานต่างๆ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และการศึกษาวิจัย ทั้งนี้ ขอให้ผู้ที่มีความต้องการจะดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับกัญชา ขอให้ติดต่อสอบถามได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1556 และ สายด่วน สำนักงาน ป.ป.ส. 1386 อย่างไรก็ตามกัญชายังคงเป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย หากพบเบาะแสเกี่ยวกับการเสพ ครอบครอง หรือจำหน่ายกัญชา ที่ไม่ได้รับอนุญาต สามารถให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ได้ที่ สายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง
………………………………………………………………………………………………..