อย. เตือนผู้ป่วยใช้ยาอย่างระมัดระวัง อ่านฉลากให้ละเอียดก่อนการใช้ยา หากมีอาการแพ้หยุดใช้ยาทันทีรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร และจดจำชื่อยาที่แพ้ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่แพ้หรือยาอื่นในกลุ่มเดียวกัน
นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า กรณีหญิงสาวซื้อยาแก้ปวด “ไอบูโพรเฟน” มารับประทานเพื่อรักษาอาการปวดฟันคุด และเกิดการแพ้ยาอย่างรุนแรงจนผิวหนังไหม้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอเตือนผู้บริโภคควรอ่านฉลาก วิธีการใช้ยา คำเตือนและข้อควรระวังของยาให้ละเอียดก่อนการใช้ยา เนื่องด้วยยาไอบูโพรเฟน เป็นยาในกลุ่มยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (Nonsteroidal Anti-Inflammatory Drugs: NSAIDs) มีข้อบ่งใช้สำหรับบรรเทาอาการปวด ลดไข้ และแก้อักเสบจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ปวดหัว ปวดฟัน ปวดหลัง ข้อต่ออักเสบ ปวดประจำเดือน และอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งเป็นยาที่มีผู้ใช้จำนวนมาก มีจำหน่ายในร้านขายยาหรือจ่ายในโรงพยาบาลทั้งรูปแบบยาเม็ด ยาน้ำ และยาทา
ทั้งนี้ ยาที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดการแพ้ยาได้สูง ได้แก่ ยากันชัก ยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) ยาอัลโลพูรินอล (allopurinol) ยาแดพโซน (dapsone) ยาต้านรีโทรไวรัส (antiretroviral drugs) ยากลุ่มแก้อักเสบฆ่าเชื้อ ซึ่งผู้ป่วยที่ใช้ยากลุ่มนี้ควรสังเกตอาการของตนเองหลังรับประทานยา หากมีอาการที่สงสัยว่าอาจเกิดการแพ้ยารุนแรง ได้แก่ อาการทางผิวหนัง เช่น มีผื่นแดงทั้งตัว หน้าบวม ปากบวม มีผื่นหรือแผลที่ปากหรือเยื่อบุที่อื่น ๆ มีอาการแสบ กดเจ็บที่ผิวหนัง มีตุ่มน้ำ ผิวหนังลอกหลุด มีจุดจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง หรือมีตุ่มหนองตามตัวอย่างรวดเร็ว ควรหยุดใช้ยาและรีบมาพบแพทย์ทันที สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ยา ควรจดจำชื่อยาที่แพ้ไว้เพื่อแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ และหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่แพ้หรือยาอื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน
รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า ยาทุกชนิดอาจก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ หรือก่อให้เกิดอาการแพ้ยาได้ ดังนั้น ก่อนใช้ยาผู้บริโภคควรอ่านฉลากและคำเตือนให้ละเอียดก่อนการใช้ยา และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และเภสัชกร เพื่อให้ใช้ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดอาการไม่พึงประสงค์ของยา
*********************************************