วันที่ 6 มิถุนายน 2563 ณ สถานีรถไฟบ้านเต็งหนาม ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีมอบบ้านพอเพียง ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย จ.พิษณุโลก จำนวน 32 ตำบล รวม 221 ครัวเรือน ให้กับครอบครัวผู้ยากจนในพื้นที่ชนบท พร้อมทั้งมอบงบประมาณพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยในชนบทและถุงยังชีพ โดยมี นายเกรียงวิชญ์ เตชวิทยไวทิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และชาวชุมชนโครงการบ้านพอเพียงชนบท เข้าร่วมงาน นอกจากนี้ ได้มอบบ้านให้กับนางนัญชิดา ยิ้มไทย อายุ 64 ปี ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในการซ่อมแซมบ้านจากภาคีเครือข่าย
นายจุติ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. มีภารกิจสำคัญในการแก้ไขปัญหาครอบครัวผู้ยากจนในพื้นที่ชนบทที่ความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยที่ไม่มีความมั่นคงแข็งแรง หรือเป็นพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติและที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหาย รวมทั้งประสบปัญหาถูกไล่รื้อ โดยได้ขับเคลื่อนโครงการบ้านพอเพียงชนบท ด้วยการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุง ซ่อมแซม และสร้างที่อยู่อาศัย รวมทั้งประสานความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย ความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งวันนี้ ตนได้มามอบบ้านพอเพียงให้ผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัย จ.พิษณุโลก จำนวน 32 ตำบล รวม 221 ครัวเรือน อีกทั้งได้มอบบ้านให้กับนางนัญชิดา ยิ้มไทย อายุ 64 ปี เป็นผู้สูงอายุที่พิการทางการได้ยิน ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนในการซ่อมแซมบ้านจากหน่วยงานกระทรวง พม. ได้แก่ พอช. กรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (สนง.พมจ.พิษณุโลก) รวมทั้งได้รับการสนับสนุนเงินบริจาค แรงงาน และวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง จากภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งประชาชน ใน จ.พิษณุโลก
นายจุติ กล่าวต่อไปว่า บ้านคือปัจจัย 4 ที่สำคัญของชีวิต กระทรวง พม. จึงดำเนินการสร้างบ้านเพื่อดูแลเรื่องที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งโครงการบ้านเช่าราคาถูก เดือนละ 999 บาท นอกจากนี้ ได้มีการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ เนื่องจากเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงและวิถีชีวิตของคนต้องเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จำเป็นต้องมีการชี้นำและเพิ่มพูนทักษะอาชีพให้กับประชาชนในส่วนของอาชีพใหม่ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานที่มีการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตใหม่ ทั้งนี้ รัฐบาลพร้อมเป็นพี่เลี้ยงในการให้โอกาสกับทุกคน เราต้องช่วยกันขยันหาโอกาส เพราะเราไม่สามารถทำงานได้เพียงลำพัง ที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยรัฐบาลจะร่วมให้การสนับสนุนการประกอบอาชีพ เพื่ออนาคตของประเทศไทย
นายจุติ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ตนยังได้เดินทางไปลงพื้นที่เยี่ยมสหกรณ์เคหสถานบ้านมั่นคงเมืองพิษณุโลก จำกัด หมู่ 12 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมมอบถุงยังชีพ โดยพบว่าชุมชนดังกล่าวอยู่ภายใต้การดูแลของ พอช. และต้องการความช่วยเหลือในเรื่อง การขอใช้ไฟฟ้าและการปรับปรุงถนนภายในชุมชนให้มีความมั่นคงแข็งแรง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งนี้ ตนจึงร่วมหารือถึงแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าว โดยพร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้ความช่วยเหลือต่อไป
……………………………………………………………………………….