รายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2563
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ 2 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 2,965 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 96.2 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเพียง 60 ราย หรือร้อยละ 1.95 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 1 ราย เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศรัสเซียและได้เข้ารับการเฝ้าระวังกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสม 57 ราย มีผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,082 ราย
วันที่ 1 มิถุนายน 2563 เป็นวันแรกที่รัฐบาล ได้ผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 3 อนุญาตให้ดำเนินกิจการ/กิจกรรมบางส่วนเพิ่มเติม เช่น ขยายเวลาการจำกัดเวลาเข้า-ออกเคหะสถาน เป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. ขยายเวลาการปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุมเป็น 21.00 น. ผ่อนปรนข้อกำหนดกิจการเสริมความงาม สนามกีฬา รวมถึงอนุญาตให้เปิดกิจการบางประเภท อาทิ สวนสัตว์ โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส สปา นวดแผนไทย เป็นต้น ซึ่งการผ่อนปรนกิจการ/กิจกรรม จะทำให้มีผู้เข้าใช้บริการและเกิดการรวมตัวของคนมากขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่และสัมผัสเชื้อได้ ขอให้สถานประกอบการเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากทั้งผู้รับบริการและผู้ให้บริการ อาทิ การวัดไข้คัดกรองทุกคนที่เข้าพื้นที่ และให้สวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า จัดทางเข้าออกทางเดียว จัดตั้งจุดวางแอลกอฮอล์เจลล้างมือ จัดพื้นที่ให้บริการโดยเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร จำกัดจำนวนคนและระยะเวลาการรับบริการแต่ละครั้ง มีการทำความสะอาดพื้นผิวที่มีการสัมผัสร่วมกัน เช่น ราวบันได ราวจับ ปุ่มกดลิฟต์ ห้องน้ำ ก๊อกน้ำ โต๊ะ ทุก 2 ชั่วโมง เป็นต้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน สำหรับผู้เข้ารับบริการขอให้คิดถึงสุขภาพและความปลอดภัยของตนเองเป็นหลัก โดยปฏิบัติตามข้อกำหนดของสถานที่อย่างเคร่งครัด ที่สำคัญคือการสวมหน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า เว้นระยะระหว่างผู้อื่น และล้างมือบ่อยๆ
แม้ว่าสถานการณ์ของประเทศขณะนี้จะดีขึ้นแล้ว โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและอยู่ในสถานที่กักตัวที่รัฐจัดให้ ส่วนผู้ติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนลดลง และไม่มีรายงานต่อเนื่องเป็นเวลา 7 วัน อาจทำให้ประชาชนบางส่วนเกิดความชะล่าใจละเลยการสวมใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้า ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนช่วยกันสวมใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าต่อไปและทำให้เป็นนิสัย ร่วมกับการล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างผู้อื่น จะเป็นการสร้างเกราะป้องกันตัวเอง ลดการแพร่และสัมผัสเชื้อโควิด 19 และ โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอเชิญชวนประชาชนรวมตอบแบบสอบถามเรื่อง การจัดการกับข่าวสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากสื่อออนไลน์ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 (สัปดาห์ที่ 4) เพื่อประเมินความรู้เท่าทันสื่อออนไลน์ เนื่องจากกว่าร้อยละ 80 ของข้อความเท็จเกี่ยวกับโรคโควิด 19 มาจาก Facebook โดยสามารถเข้าไปตอบแบบสอบถามได้ที่ https://bit.ly/TrueorFalseCOVID19 หรือแสกนผ่าน QR Code ทุกการตอบแบบสอบถามจะเปลี่ยนเป็นเงินบริจาค 5 บาท ให้กับองค์กรการกุศล