ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา คาดว่าจะมีปริมาณฝนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณร้อยละ 5-10 ทั้งนี้ ได้มีการคาดการณ์ถึงพายุหมุนเขตร้อนที่จะเคลื่อนที่เข้าสู่ประเทศไทย จำนวน 1-2 ลูก ในช่วงเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน นี้
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้กำหนดมาตรการบริหารจัดการน้ำฤดูฝน ปี 2563 โดยให้โครงการชลประทานทั่วประเทศดำเนินการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศให้เพียงพอ ส่งเสริมการปลูกพืชฤดูฝนให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก และใช้น้ำชลประทานเสริม รวมทั้งบริหารจัดการน้ำท่าให้มีประสิทธิภาพ กักเก็บน้ำในเขื่อนให้ได้มากที่สุด พร้อมกับวางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย
ด้าน นายสุดชาย พรหมมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 กล่าวว่า ในวันนี้ (28 พ.ค. 63) ได้การลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความพร้อมใช้งานของอาคารและติดตามการกำจัดวัชพืช สิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหากเกิดอุทกภัยในปี 2563 จำนวน 5 แห่งได้แก่ ประตูระบายน้ำท่าวังตาล ตำบลป่าแดด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โรงสูบน้ำบ้านดอนไชย ฝายชลขันธ์พินิจ อาคารระบายน้ำไหล (ไซฟอน) แม่ตาช้าง และแม่เหียะ นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจสอบสภาพความมั่นคงของเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางรวม 20 แห่ง อาคารป้องกันน้ำท่วมอีก 77 แห่ง รวมไปถึงการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ พร้อมกับเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยได้กำหนดจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ตาม One map จำนวน 42 จุด 68 เครื่อง
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 ได้กำหนดผู้รับผิดชอบ รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ในลำน้ำ โดยได้มีการซักซ้อมการปฏิบัติงานตาม One map (เมืองเชียงใหม่, แม่ตาช้าง) เพื่อให้เกิดความพร้อมปฏิบัติงานหากเกิดสถานการณ์อุทกภัย
สำหรับการเตรียมความพร้อมและการช่วยเหลือในช่วงฤดูฝนปี 2563 และขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวเชียงใหม่และลำพูน งดทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงทางระบายน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตัน และเป็นอุปสรรคในการระบายน้ำ