กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี เตือนประชาชนให้ระวังอันตรายจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของประเทศไทย ทำให้เกิดปรากฏการณ์คลื่นความร้อนซึ่งมีผลต่อสุขภาพและทำให้เกิดโรคลมแดด ตะคริวจากความร้อน แนะนำดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดจัดและไม่ควรออกกำลังกายหรือทำงานกลางแดดเป็นเวลานาน
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศของประเทศไทยซึ่งทุกภูมิภาครวมทั้งกรุงเทพมหานคร มีอากาศร้อนเพิ่มสูงขึ้น จึงขอเตือนกลุ่มเสี่ยงเกิดโรคจากคลื่นความร้อนได้ง่าย ได้แก่
1.ผู้ที่ทำงานหรือทำกิจกรรมกลางแดด เช่น ออกกำลังกาย ผู้ใช้แรงงาน ก่อสร้าง เกษตรกร
2.เด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีและผู้สูงอายุ
3.ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง
4.คนอ้วน
5.ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ และ
6.ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ซึ่งโรคจากความร้อนเป็นภาวะผิดปกติในการตอบสนองของร่างกายต่อการสัมผัสความร้อนสูงกว่าปกติ และไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับปกติได้ กลุ่มอาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากความร้อน ได้แก่ คนทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีแหล่งกำเนิดความร้อนจากเครื่องจักรหรือกระบวนการผลิตที่มีความร้อน เช่น โรงงานหล่อหลอมโลหะและอโลหะ โรงงานผลิตเซรามิค การถลุงเหล็ก การทำแก้ว การทำกระเบื้องเคลือบ การทำเหมืองเปิด การสำรวจแร่ น้ำมัน พนักงานดับเพลิง เป็นต้น
สาเหตุที่ทำให้เกิดการเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานที่มีสภาวะแวดล้อมมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ คือ
1.มีอุณหภูมิและความชื้นสูง การสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
2.สถานที่ไม่มีการระบายอากาศหรือลมพัด
3.ดื่มน้ำน้อย
4.ทำงานที่ต้องใช้พลังงานมาก
5.สวมเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อไม่ดี
6.ไม่เคยชินกับการทำงานในที่มีอากาศร้อนมาก่อน
ดังนั้นผู้ปฏิบัติงานควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดในระหว่างปฏิบัติงานเพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า การเจ็บป่วยเนื่องจากความร้อนเกิดขึ้นเมื่อกลไกการระบายความร้อนภายในร่างกายทำงานไม่ถูกต้องตามหน้าที ทำงานในที่มีอากาศร้อนหรือได้รับความร้อนโดยตรง จะทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยต่างๆ เนื่องจากในภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ระบบทำงานของศูนย์ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายทำงานผิดปกติ ระบบการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกายไม่ได้ผลเกิดขึ้นได้ ดังนี้
1.ตะคริวจากความร้อน
2.อาการเหนื่อยล้าจากความร้อน ได้แก่ เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย ชีพจรเต้นเร็ว ปวดศีรษะ วิงเวียน ผิวหนังเปียกชื้น อาจหมดสติ
3.เป็นลมจากความร้อน มีอาการเปลี่ยนแปลงทางระบบประสาท ชักหมดสติ และอาจเสียชีวิต
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการเจ็บป่วยเนื่องจากความร้อนควรปฏิบัติดังนี้
1.อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของความร้อนที่อาจทำให้เกิดการเจ็บป่วย และการป้องกันอันตรายจากความร้อน
2.จัดให้มีน้ำเย็นและกระตุ้นให้คนงานดื่มน้ำบ่อยๆ ในระหว่างทำงานที่มีอากาศร้อน อย่างน้อยครั้งละ 1 แก้วทุก 20 นาที
3.จัดให้มีช่วงเวลาพักบ่อยกว่าการทำงานในสภาพปกติ และบริเวณที่พักมีสภาพอากาศไม่ร้อน
4.สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
5. จัดหาอุปกรณ์ป้องกันความร้อนไม่ให้สัมผัสคนงานโดยตรง
6.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาแฟอีน
……………………………………………
# กรมการแพทย์ # โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี # โรคจากความร้อน