อนุทิน ชื่นชมมูลนิธิ ช่วยงานการแพทย์ฉุกเฉิน ในสถานการณ์โรคโควิด 19

รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชื่นชมมูลนิธิเอกชนไม่แสวงหากำไร จัดอบรมพัฒนาศักยภาพเป็นชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษเพื่อตอบโต้ COVID-19 มีทักษะ ความรู้ป้องกันตัวเองขณะปฏิบัติงาน เพื่อเป็นทีมสำรองให้แก่ชุดปฏิบัติการระดับสูง จำนวน 63 ทีมทั่วประเทศ

วันที่ 26 เมษายน 2563 มูลนิธิร่วมกตัญญู ตำบลบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดการประชุม การดำเนินงานด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ขององค์กรเอกชนไม่แสวงหากำไร เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการในสถานการณ์ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมีนพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการ ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู ประธานและตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 24 แห่ง ร่วมประชุม 100 คน และมอบชุดป้องกันการติดเชื้อ ได้แก่ ชุด PPE. หน้ากากอนามัย ถุงคลุมเท้า ถุงมือ แอลกอฮอล์ และ Face shield พร้อมชมการสาธิตการปฏิบัติการการช่วยเหลือนำส่งผู้ป่วยติดเชื้อของมูลนิธิร่วมกตัญญู

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เครือข่ายมูลนิธิเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในการขับเคลื่อนงานการแพทย์ฉุกเฉิน อยู่ใกล้ชิดให้ความช่วยเหลือประชาชนมากที่สุด ได้ช่วยเหลือนำส่งผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ การรับผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บอื่นๆ ที่ไม่ทราบว่าติดเชื้อนำส่งโรงพยาบาล หรือเก็บร่างผู้เสียชีวิตทั้งติดเชื้อและไม่ติดเชื้อให้แก่ญาติ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 โดยได้ให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ จัดตั้งชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษเพื่อตอบโต้ COVID-19 (Special COVID-19 Operation Team : SCOT) จำนวน 63 ทีมทั่วประเทศ โดยอบรมเสริมสร้างทักษะ ความรู้ในการป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย รวมทั้งจัดอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อขณะปฏิบัติภารกิจ เพื่อเป็นทีมสำรองช่วยชุดปฏิบัติการระดับสูงปฏิบัติงานในสถานการณ์ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก

“แม้ว่าสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ของไทยจะมีแนวโน้มลดลง แต่ไม่ควรไว้วางใจมากนักเพราะหลายประเทศยังประสบปัญหาการระบาดของโรคที่รุนแรง เชื่อว่าประเทศไทยยังต้องอยู่กับสถานการณ์นี้ไม่น้อยกว่า 2 ปี ทีม SCOT จะช่วยเสริมทีมการแพทย์ฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มความเข็มแข็งระบบการแพทย์และสาธารณสุขไทยในการต่อสู้กับโรคนี้” นายอนุทิน กล่าว

 

ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้กำหนดให้ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินที่ออกปฏิบัติงานให้ความช่วยเหลือนำส่งผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ต้องเป็นชุดปฏิบัติการฉุกเฉินระดับสูง (ALS) ซึ่งเป็นทีมที่มีความรู้ทักษะในการป้องกันการติดเชื้อเป็นอย่างดี ทั่วประเทศมีประมาณ 2,000 ชุดเท่านั้น แต่จากการปฏิบัติการฉุกเฉินที่ผ่านมาชุดปฏิบัติการฉุกเฉินสังกัดมูลนิธิเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร มีสัดส่วนของการออกเหตุมากกว่าร้อยละ 60 ของการออกเหตุทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันมีชุดปฏิบัติการฉุกเฉินในระบบการแพทย์ฉุกเฉินสังกัดมูลนิธิ จำนวน 33,358 คน มีรถปฏิบัติการฉุกเฉิน จำนวน 8,402 คัน ในจำนวนมูลนิธิ 400 กว่าแห่งทั่วประเทศ จึงได้จัดอบรมชุดปฏิบัติการฉุกเฉินในสังกัดมูลนิธิ เป็นชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษเพื่อตอบโต้ COVID-19 เพื่อสนับสนุนงานของระบบสาธารณสุขให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

******************************** 26 เมษายน 2563