หลังจากการจ่ายเงินกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ให้แก่ ผู้ประกันตนผู้มีสิทธิกลุ่มแรก ในวันจันทร์ที่ 20 เมษายน 2563 และจะทยอยตัดจ่ายทุกวัน ผู้ประกันตนที่ได้รับการอนุมัติ และรับเงินงวดแรกไปแล้ว สำนักงานจะตัดจ่ายงวดที่ 2 และ 3 ให้ในเดือนถัดไปจนกว่าจะครบจำนวนวันที่ไม่ได้ทำงาน ที่ได้แจ้ง ต่อสำนักงานประกันสังคม
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า ตนมีความมั่นใจว่าสำนักงานประกันสังคมมีความพร้อมในการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์กรณีว่างงาน ให้แก่ผู้ประกันตนทุกคนที่จะมีสิทธิ สำนักงานฯ ได้เตรียมสภาพคล่องพร้อมจ่ายเงินให้ผู้ประกันตนได้ทันที ที่ตรวจสอบสิทธิ์เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามต่อความกังวลของหลายท่านในเรื่องความพอเพียงของกองทุน กรณีว่างงานนั้น คณะรัฐมนตรีก็ยังได้มีมติให้กระทรวงแรงงานเตรียมความพร้อมจัดทำแผนการเงิน เพื่อรองรับในกรณีที่มีคนขอรับสิทธิประโยชน์ในกรณีว่างงานเป็นจำนวนมากในกรณีจำเป็นอาจต้องขอรับจัดสรรงบประมาณ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ก็สามารถจัดทำแผนขอรับเงินในส่วนนี้ได้
ทั้งนี้ นายทศพลฯ ยืนยันว่า สำนักงานประกันสังคมมีภารกิจในการให้ความมั่นคงทางสังคม แก่ผู้ประกันตน ในช่วงภาวะวิกฤตจากไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ตามมาตรการโดยสรุป ดังนี้
1. ลดอัตราเงินสมทบ นายจ้าง เหลือร้อยละ 4 ผู้ประกันตนมาตรา 33 เหลือร้อยละ 1 และผู้ประกันตนมาตรา 39 เหลือ 86 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน (มีนาคม – พฤษภาคม 2563)
2. ขยายระยะเวลานำส่งเงินสมทบ ของนายจ้าง และผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 สำหรับงวดเดือน มีนาคม – พฤษภาคม ออกไปอีก 3 เดือน
– ค่าจ้างเดือน มีนาคม 2563 ให้นำส่งภายใน 15 กรกฎาคม 2563
– ค่าจ้างเดือน เมษายน 2563 ให้นำส่งภายใน 15 สิงหาคม 2563
– ค่าจ้างเดือน พฤษภาคม 2563 ให้นำส่งภายใน 15 กันยายน 2563
3. เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย กรณีผู้ประกันตนไม่ได้ทำงาน หรือนายจ้างไม่ให้ทำงานกักตัว 14 วัน เนื่องจากสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 และกรณีผู้ประกันตน ไม่สามารถทำงานได้และไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น ไม่ว่านายจ้างจะหยุดประกอบกิจการเอง หรือหยุดประกอบกิจการตามคำสั่งของทางราชการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตราย ให้ได้รับเงินว่างงานร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน
4. เพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีว่างงาน ให้ผู้ประกันตนที่ลาออก ให้รับเงินกรณีว่างงานร้อยละ 45 ของค่าจ้างไม่เกิน 90 วัน และผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้างรับเงินกรณีว่างงานร้อยละ 70 ของค่าจ้าง ไม่เกิน 200 วัน ทั้งสองกรณีนั้น (บังคับใช้ 2 ปี)
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่าสำนักงานประกันสังคมจะระมัดระวังในการบริหารจัดการกองทุน วางแผนการเงินที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ประกันตนสูงสุด สมตามเจตนารมณ์ในการจัดตั้งกองทุนประกันสังคมต่อไป