นายสุพพัต อ่องแสงคุณ โฆษกกระทรวงพาณิชย์และศูนย์ปฏิบัติการด้านการควบคุมสินค้า (ศปส) ฝ่ายสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ ของกระทรวงพาณิชย์ว่า ณ วันที่ 19 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เพิ่ม 3 ราย ในกรุงเทพฯ พบเป็นร้านขายยา 1 ราย จำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา บรรจุแพคละ 10 ชิ้น ในราคาแพคละ 200 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 20 บาท) เจ้าหน้าที่ได้ทำการล่อซื้อและจับกุมร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟซบุ๊ก 1 ราย พบจำหน่ายหน้ากากอนามัยแบบธรรมดา บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ในราคากล่องละ 500 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 10 บาท) ทั้ง 2 ราย กระทำความผิดข้อหาจำหน่ายหน้ากากอนามัยอนามัยสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังทำการล่อซื้อและจับกุมร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ได้อีก 1 ราย ตรวจค้นพบของกลางเป็นหน้ากากอนามัยจำนวน 479,000 ชิ้น และมีการจำหน่ายหน้ากากอนามัย ในราคาชิ้นละ 11.50 บาท แจ้งข้อหารกระทำความผิดเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ และต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิตคงเหลือ ต่อ กกร. ตามมาตรา 25 (5) และมาตรา 26 รวมถึงการจำหน่ายหน้ากากอนามัยสูงเกินสมควร ตามมาตรา 29 อีกด้วย ส่วนในต่างจังหวัดไม่พบมีการร้องเรียนเพิ่ม โดยสถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ มียอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 366 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 168 ราย และต่างจังหวัด 198 ราย
ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่แจ้งต้นทุนราคาซื้อ ราคาจำหน่าย ปริมาณการผลิต ปริมาณคงเหลือ ตามมาตรา 25 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับไม่เกินวันละ 2,000 บาท ตลอดเวลาที่ฝ่าฝืน หรือจนกว่าจะแจ้ง มาตรา 26 ข้อหาเป็นผู้ผลิตไม่แจ้งชื่อ ราคาซื้อ ราคาจำหน่าย มาตรา 28 ข้อหาไม่ปิดป้าย แสดงราคาขาย มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และมาตรา 29 ข้อหาขายแพงเกินสมควรมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายสุพพัต กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบมีการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการกระทรวงพาณิชย์จะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที เตือนประชาชนอย่ากักตุนสินค้า หรือค้ากำไรเกินควร ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ และแอลกอฮอล์ รวมถึงสินค้าจำเป็นอื่น ๆ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 ซึ่งถือเป็นการเอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยกระทรวงพาณิชย์จะเฝ้าติดตามตรวจสอบ จับกุม อย่างต่อเนื่อง “ขอให้ประชาชนที่พบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร ร้องเรียนได้ทันทีที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และ ในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด” นายสุพพัต กล่าว
……………………………..