วันที่ 14 เมษายน 2563 นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานเปิดการประชุม “การบูรณาการการบริหารงานบุคคลของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับสำนักงาน ก.ค.ศ. ในการประชุมครั้งที่ 1/2563 ณ ห้องประชุม 5 (ชั้น 1) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อบูรณาการการทำงานในเรื่องของการบริหารงานบุคคลร่วมกันระหว่างสำนักงาน ก.ค.ศ กับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นครั้งแรก ภายใต้การบริหารงานของ ดร.อัมพร พินะสา เลขาธิการ ก.ค.ศ. กับ นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยในการประชุมมีคณะผู้บริหารที่เข้าร่วมการประชุมในส่วนของสำนักงาน ก.ค.ศ. ได้แก่ นายชาย มะลิลา รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ และนางสุปราณี นฤนาทนโรดม รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร และเจ้าหน้าสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่เกี่ยวข้อง และในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีผู้บริหารที่เข้าร่วมการประชุม ได้แก่ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พร้อมด้วยผู้บริหาร และเจ้าหน้าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อปรึกษาหารือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ พร้อมรับทราบปัญหาและอุปสรรคในการบริหารงานและการดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องรวมถึงพิจารณาแนวทางในการบริหารงานบุคคลร่วมกัน ทั้งในส่วนงานของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ต้องมีความเชื่อมโยงกับภารกิจของสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่จะต้องดูแล และพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่สำคัญในหลายเรื่อง เช่น เรื่องการขอยกเว้นใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ในการสมัครสอบคัดเลือกหรือสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลาการทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อรองรับการเปิดการเรียนการสอนตามสาขาวิชาชีพที่เกิดขึ้นใหม่ ตามนโยบายของรัฐบาล การขอยกเว้นใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารสถานศึกษาสำหรับการสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลาการทางการศึกษา ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เนื่องจากมีผู้มาสมัครสอบไม่เพียงพอกับจำนวนอัตราว่าง เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สามารถคัดเลือกบุคคลที่มีศักยภาพ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารได้เพิ่มมากขึ้นและเพียงพอต่อจำนวนอัตราว่างที่ประกาศรับสมัคร และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนรองผู้อำนวยการสถานศึกษา เป็นต้น
ซึ่งการบูรณาการการบริหารงานบุคคลร่วมกันในครั้งนี้จะทำให้เกิดกลไก การบริหารงานและการทำงานที่เหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากเป็นการร่วมแรงร่วมใจในการที่จะขับเคลื่อนการบริหารงานบุคคล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ต้องการเห็นหน่วยงานทางการศึกษาและส่วนราชการได้มีการบูรณาการการทำงานร่วมกัน และร่วมขับเคลื่อนการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา อันจะส่งผลให้การจัดการศึกษาของชาติมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล เป็นรูปธรรม ต่อไป