นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประชุมหารือแนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งในช่วงสถานการณ์การระบาดของโรคไวรัส COVID – 19 เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา ร่วมกับกรมประมง สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเล และ สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย และสมาคมผู้ค้าปัจจัยการผลิตสัตว์น้ำไทย โดยที่ประชุมได้รายงานผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโรคไวรัส COVID-19 เพื่อเร่งหาแนวทางให้ความช่วยเหลือ โดยปัญหาเร่งด่วนที่สุดที่ต้องรีบดำเนินการคือการดูดซับปริมาณผลผลิตลูกกุ้งและกุ้งเนื้อ ที่เกษตรกรผลิตแล้วไม่สามารถจำหน่ายออกไปได้ : ซึ่งเบื้องต้นที่ประชุมได้มีข้อสรุป 3 มาตรการ คือ มาตรการที่ 1 ระยะสั้น รัฐเข้าไปช่วย 80 % ของราคาห้องเย็นซื้อกุ้งจากเกษตรกร ฟาร์มเกษตรกรต้องไม่ใช่ฟาร์มขนาดใหญ่ ในการประเมินข้อมูลผลผลิตส่วนที่เหลือจากความต้องการของห้องเย็นควรจะใช้ตัวเลขผลผลิตที่ห้องเย็นต้องการใช้กุ้งจริงและตัวเลขผลผลิตกุ้งที่ผลิตได้แท้จริง ผลผลิตกุ้งส่วนที่ (เกษตรกรเป็นเจ้าของ) นำฝากห้องเย็นไว้ค่าใช้จ่ายในการฝากเก็บในห้องเย็นในระยะเวลา 3 เดือน โดยรัฐช่วยจ่าย 80% โดยพิจารณาจากโครงสร้างพื้นที่ที่มีผลผลิตกุ้งออกมาปริมาณมาก ถ้าราคากุ้งดีขึ้นเกษตรกรก็สามารถมาไถ่ถอนจากการจำนำ โดยให้ที่ประชุมของคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งไทยพิจารณาโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และมีมติมอบหมายให้กรมประมงเสนอโครงการมายังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายในวันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2563 และนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณา ก่อนจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในวันที่ 21 เมษายน 2563 ต่อไป
มาตรการที่ 2 ระยะกลาง ขึ้นกับสถานการณ์และภาวะความต้องการของตลาดทั้งต่างประเทศและภายในประเทศ โดยตลาดภายในประเทศสร้างความร่วมมือจาก 3 กระทรวง คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม สร้างระบบภายในประเทศโดยวางระบบการกระจายผลผลิตทางการเกษตรให้พร้อมกันทั่วประเทศ และ มาตรการที่ 3 ลดต้นทุน โดยสั่งการให้กรมประมงทำหนังสือถึงกระทรวงมหาดไทยเพื่อเสนอต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปรับเปลี่ยนการใช้ไฟฟ้าของผู้เลี้ยงกุ้งให้เป็นผู้ใช้ประเภท เกษตรกร ส่วนค่าอาหารกุ้ง และลูกกุ้งให้กรมประมงหาแนวทางขอลดราคา และลูกกุ้งให้ดำเนินการตามโครงการ คชก.
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปมาตรการให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์นี้ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกุ้งไทย และจะนำมติของคณะกรรมการฯ เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาก่อนนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป