“พาณิชย์” เผยล่าสุดพบผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์แพงเกินจริง ส่วนสถานการณ์การจำหน่ายไข่ไก่ไม่พบคดีเพิ่ม (ประจำวันที่ 6 เมษายน 2563)

รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ รายงานผลการจับกุมสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ ณ วันที่ 5 เมษายน 2563 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์แพงเกินจริงทั้งขายผ่านออนไลน์และร้านค้าทั่วไป เพิ่มอีก 5 ราย ทำให้ยอดการจับกุม รวม 265 ราย ส่วนไข่ไก่ไม่พบการกระทำความผิดเพิ่ม รวมยอดทั้งประเทศยังคงอยู่ที่ 26 ราย ย้ำกระทรวงพาณิชย์จะลงพื้นที่ตรวจสอบ อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง หากผู้บริโภคพบเห็นการกักตุนหรือค้ากำไรเกินควร สามารถร้องเรียนได้ทันที

นางลลิดา จิวะนันทประวัติ รองโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติการกรณีสินค้าอุปโภคบริโภคและเวชภัณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ ได้เพิ่ม อีก 5 ราย แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 2 ราย โดยเป็นการจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าทางแอปพลิเคชั่นไลน์ 1 ราย ในเขตสายไหม จำหน่ายหน้ากากอนามัย กล่องละ 50 ชิ้น ราคากล่องละ 750 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ 15 บาท)แจ้งข้อหาขายแพงเกินราคาสมควร และอีก 1 ราย เป็นสถานที่ผลิตเจลแอลกอฮอล์ในเขตแจ้งวัฒนะ ข้อหากระทำความผิดตาม มาตรา 25 (5) ไม่แจ้งราคาต้นทุนการผลิต

ส่วนในต่างจังหวัดจับกุมได้เพิ่ม 3 ราย โดยพบผู้กระทำความผิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยแพงเกินราคาสมควร (มาตรา 29) จำนวน 2 ราย จังหวัดนครราชสีมา 1 ราย โดยทำการล่อซื้อจับกุมผู้จำหน่ายหน้ากากอนามัยผ่านทางเฟสบุ๊ก จำหน่ายในราคากล่องละ 730 บาท (เฉลี่ยชิ้นละ14.60 บาท) รวม 5,000 ชิ้น และที่จังหวัดปราจีนบุรี 1 ราย นอกจากนี้ยังได้เข้าตรวจค้นหน้ากากอนามัยและจับกุมชาวจีน ในจังหวัดชลบุรี อีก 1 ราย ในข้อหาไม่แจ้งปริมาณและปฏิเสธการจำหน่ายสินค้าควบคุม มาตรา 25 (5) และมาตรา 30 ทำให้สถิติการจับกุมผู้กระทำความผิดกรณีหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และแอลกอฮอล์ เพิ่มขึ้นเป็น 265 ราย แยกเป็นกรุงเทพฯ 131 ราย และต่างจังหวัด 134 ราย

ทั้งนี้ โทษที่ผู้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ข้อหาขายเกินราคาควบคุม มาตรา 25 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาไม่ปิดป้ายแสดงราคาขาย มาตรา 28 มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ข้อหาขายแพงเกินสมควร (มาตรา 29) มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นางลลิดา กล่าวว่า สำหรับการจับกุมผู้กระทำความผิดจำหน่ายไข่ไก่เกินราคาทั่วประเทศ ณ วันที่ 5 เม.ย. 2563 ไม่พบผู้กระทำความผิดเพิ่ม ยอดรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 26 ราย อย่างไรก็ตาม จากการติดตาม พบว่าสถานการณ์ไข่ไก่ดีขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งขณะนี้การผลิตและการกระจายผลผลิตไข่ไก่ ดีขึ้น โดยการขอความร่วมมือห้างค้าปลีกค้าส่ง ให้จำกัดการจำหน่ายไม่เกินคนละ 1-2 แผง เพื่อให้กระจายได้ทั่วถึง รวมถึงมาตรการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการ ทั้งการห้ามส่งออกไข่ไก่เป็นระยะเวลา 30 วัน การกำหนดราคาหน้าฟาร์มไม่ควรเกินฟองละ 2.80 บาท การร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ในการชะลอการปลดแม่ไก่ยืนกรงออกไป รวมถึงการออกมาตรการให้ผู้ครอบครองไข่ไก่ตั้งแต่ 1 แสนฟองต่อวัน ต้องแจ้งปริมาณการผลิต การรับซื้อ การจำหน่ายและสต๊อก รวมทั้งสถานที่เก็บ ให้กับกระทรวงพาณิชย์ทราบทุกวันตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.2563 เป็นต้นไป

“หากประชาชนพบเห็นการกักตุนสินค้าหรือค้ากำไรเกินควร ขอให้ร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 และในต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด จะมีการเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดทันที” นางลลิดากล่าว
——————————-
6 เมษายน 2563