กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ติดตามความคืบหน้าและผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า กำชับหน่วยงานสร้างความรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบและการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
วันที่ 1 เมษายน 2563 ณ ศูนย์ติดตามแก้ไขปัญหาพิบัติภัย (ไฟป่าและหมอกควัน) ชั้น 17 อาคารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์วิกฤติหมอกควันไฟป่าที่มีความรุนแรงในปีนี้ รัฐบาลโดย ฯพณฯ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ทุกภาคส่วนดำเนินการแก้ไขวิกฤติปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างเร่งด่วน พร้อมสนับสนุนงบประมาณ อุปกรณ์ และกำลังอย่างเต็มที่ เน้นบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ได้มอบหมายให้ประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ผ่านระบบ Video Conference เป็นประจำทุกวัน โดยในวันนี้ ได้ประชุมร่วมกับ 17 จังหวัดภาคเหนือ และจังหวัดกาญจนบุรี
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ขอขอบคุณในนามรัฐบาลและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในครั้งนี้ และขอให้ทุกท่านระมัดระวังและดูแลสุขภาพ ปฏิบัติตามเงื่อนไขกระทรวงสาธารณสุข และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ความคืบหน้าและแนวทางในการดำเนินงาน มีดังนี้
1. สถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ในภาพรวมดีขึ้นตามลำดับ โดยพบจุด Hotspot ลดลง ดังนั้น ขอให้รักษามาตรฐานในการดำเนินงานต่อไป
2. สถานการณ์ภาคเหนือตอนล่าง และจังหวัดกาญจนบุรี พบจุด Hotspot เพิ่มขึ้น ดังนั้น ขอให้ดำเนินการตามมาตรการซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ไว้อย่างเคร่งครัด และขอให้นำผลการดำเนินงานที่จังหวัดเชียงใหม่มาเป็นแนวทางในการดำเนินการต่อไป
3. สถานการณ์หมอกควันข้ามแดน พบจุด Hotspot มีต่อเนื่อง ดังนั้น มอบกรมควบคุมมลพิษ ดำเนินการประสานไปยังสำนักงานเลขาธิการอาเซียนเพื่อขอความร่วมมือควบคุมการเผา
4. ให้มีการสร้างความรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบและการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง