จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 จากระดับ 50.30 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เหลือ 28.70 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในวันที่ 20 มีนาคม 2563 ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลลดลงไป 12 ครั้ง โดยกลุ่มเบนซินลดลงเฉลี่ย 5.60 บาท/ลิตร และกลุ่มดีเซลลดลงเฉลี่ย 4.30 บาท/ลิตร ซึ่งประชาชนได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลงประมาณ 13,000 ล้านบาท/เดือน
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมาก กระทบต่อการดำรงชีพของประชาชน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 ได้พิจารณาหามาตรการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน และชะลอการใช้เอทานอล ที่ผสมในน้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล เพื่อนำไปใช้ทางการแพทย์ รวมทั้งส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 10 จึงได้มีมติให้ลดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด 0.50 บาท/ลิตร ยกเว้นน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ลดลง 0.25 บาท/ลิตร และเพิ่มเงินกองทุนแก๊ซโซฮอล 95 (E85) 0.25 บาท/ลิตร ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลดลง 0.50 บาท/ลิตร ยกเว้น น้ำมันมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ลดลง 0.25 บาท/ลิตร และแก๊สโซฮอล 95 (E85) เพิ่มขึ้น 0.25 บาท/ลิตร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
เปรียบเทียบอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
ชนิดน้ำมัน
(บาทต่อลิตร) |
อัตราเรียกเก็บ/ชดเชยปัจจุบัน | อัตราเรียกเก็บ/
ชดเชยใหม่ |
เปลี่ยนแปลง |
น้ำมันเบนซิน | 7.08 | 6.58 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 95 (E10) | 1.12 | 0.62 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 91 (E10) | 1.12 | 0.62 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 95 (E20) | -1.78 | -2.28 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 95 (E85) | -7.38 | -7.13 | +0.25 |
น้ำมันดีเซล บี 7 | 1.50 | 1.00 | -0.50 |
น้ำมันดีเซล บี 10 | -2.00 | -2.50 | -0.50 |
น้ำมันดีเซล บี 20 | -3.91 | -4.16 | -0.25 |
เปรียบเทียบราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง
ชนิดน้ำมัน
(บาทต่อลิตร) |
ราคาเดิม | ราคาใหม่ | เปลี่ยนแปลง |
น้ำมันเบนซิน | 27.36 | 26.86 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 95 (E10) | 19.95 | 19.45 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 91 (E10) | 19.68 | 19.18 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 95 (E20) | 16.94 | 16.44 | -0.50 |
แก๊สโซฮอล 95 (E85) | 15.29 | 15.54 | +0.25 |
น้ำมันดีเซล บี 7 | 21.79 | 21.29 | -0.50 |
น้ำมันดีเซล บี 10 | 18.79 | 18.29 | -0.50 |
น้ำมันดีเซล บี 20 | 18.29 | 18.04 | -0.25 |
สภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ก่อนปรับลดอัตราเงินกองทุนฯ มีเงินไหลเข้า 219 ล้านบาท/เดือน หลังการปรับแล้วมีเงินไหลออก 1,208 ล้านบาท/เดือน หรือกองทุนรับภาระจากการปรับอัตราเงินกองทุนฯ ครั้งนี้ 1,427 ล้านบาท/เดือน
ณ วันที่ 22 มีนาคม 2563 ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ 36,569 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น
- ประเภทน้ำมันฯ 42,038 ล้านบาท
- ประเภท LPG -5,469 ล้านบาท
โครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง วันที่ 24 มีนาคม 2563 (หน่วย : บาทต่อลิตร)
ทางด้านโครงสร้างราคาก๊าซ LPG
จากสถานการณ์ที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก (LPG Cargo) ลดลงจากระดับ 545 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ในเดือนมกราคม 2563 เหลือ 255 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ในกลางเดือนมีนาคม 2563 ทำให้เงินกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG ซึ่งติดลบ 142 ล้านบาท/เดือน เป็นเงินไหลเข้ากองทุนน้ำมันฯ 429 ล้านบาท/เดือน ในช่วงเดียวกัน
เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 จึงได้มีมติให้ปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ของก๊าซ LPG จาก 4.9816 บาท/กิโลกรัม เหลือ 2.1779 บาท/กิโลกรัม หรือลดลง 2.8037 บาท/กิโลกรัม เป็นการชั่วคราว 3 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2563 ส่งผลให้ราคาขายปลีกก๊าซ LPG ลดราคาจาก 21.87 บาท/กิโลกรัม เหลือ 18.87 บาท/กิโลกรัม หรือลดลง 3 บาท/กิโลกรัม หรือราคาต่อถัง 15 กิโลกรัมลดลงจาก 363 บาท เหลือ 318 บาท
ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ของก๊าซ LPG ณ วันที่ 22 มีนาคม 2563 ติดลบ 5,469 ล้านบาท ก่อนปรับราคาสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของก๊าซ LPG มีเงินไหลเข้า 429 ล้านบาท/เดือน เป็นไหลออก 476 ล้านบาท/เดือน ซึ่งกองทุนน้ำมันฯ รับภาระ 905 ล้านบาท/เดือน
โครงสร้างราคาก๊าซ LPG