กรมการค้าภายในยันไข่ไก่มีเพียงพอกับความต้องการของประชาชน หากพบฉวยโอกาสปรับราคาจะดำเนินตามกฎหมายทันที

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากที่มีกระแสข่าวว่าขณะนี้ ไข่ไก่เริ่มแพงขึ้น และมีสัญญาณที่จะขึ้นราคาอีก แผงละ 6 บาทในสัปดาห์หน้า เนื่องจากไข่ไก่ในประเทศเริ่มขาดตลาด เพราะมีการกักตุนส่งออกไปสิงคโปร์ หลังจากมีการปิดประเทศมาเลเซีย กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ขอชี้แจงว่า ประเทศไทยผลิตไข่ไก่ได้ปีละกว่า 15,000 ล้านฟอง หรือประมาณวันละ 41  ล้านฟอง ไข่ไก่เกือบทั้งหมด ร้อยละ 95 ใช้บริโภคภายในประเทศ วันละประมาณ 39 ล้านฟอง หรือมีไข่ไก่คงเหลือในระบบประมาณวันละ 1 – 2 ล้านฟอง ในภาวะปกติไทยส่งออกไข่ไก่ไปประเทศฮ่องกงเป็นหลัก ร้อยละ 90 ของการส่งออกทั้งหมด สิงคโปร์ ร้อยละ 5 ที่เหลือส่งออกไปพม่าและลาว ซึ่งที่ผ่านมาการส่งออกไข่ไก่มีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารจัดการสมดุลของอุปทานในประเทศ เพื่อมิให้มีไข่ไก่ส่วนเกินล้นอยู่ภายในประเทศ  การส่งออกปัจจุบันพบว่า ตลาดฮ่องกงมีการสั่งซื้อลดลง เนื่องจากราคาไข่ไก่จีนถูกกว่าไข่ไทย ส่วนตลาดสิงคโปร์ที่หันมาซื้อ      ไข่ไก่จากไทยเพิ่มขึ้นแทนการสั่งซื้อจากมาเลเซีย พบว่า เพิ่มขึ้นเพียงประมาณวันละ 6 แสนฟอง

ซึ่งปัจจุบันราคาไข่ไก่คละที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท ในขณะที่ต้นทุนการผลิตไข่ไก่คละหน้าฟาร์มของเกษตรกร อยู่ที่ฟองละ 2.70  บาท ด้านราคาขายปลีกไข่ไก่เบอร์ 3 ที่ขายในตลาดสดเขต กทม. และปริมณฑล อยู่ที่ฟองละ 3.00  – 3.10 บาท เท่ากับถาดละ 90 – 93 บาท ส่วนไข่ไก่ที่ขายในห้างโมเดิร์นเทรด จะใส่บรรจุภัณฑ์ของแต่ละบริษัท ราคาจะสูงว่าราคาตามตลาดสด ซึ่งเป็นทางเลือกของประชาชนผู้บริโภค กรมการค้าภายในได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวของราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิด พบว่า ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเคลื่อนไหวอยู่ที่ฟองละ 2.60 – 2.70 บาท และในช่วงต้นเดือนมีนาคม (2 มี.ค.63) ราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับลดลงอยู่ที่ฟองละ 2.50 บาท ก่อนปรับตัวสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18 มี.ค.63) อยู่ที่ฟองละ 2.60 บาท  ตามความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้นมาก หลังจากเหตุการณ์พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นและมีมาตรการขอความร่วมมือให้หยุดอยู่บ้าน โดยพบว่า ยอดการขายไข่ไก่ของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า จากการที่ประชาชนหาซื้อไข่ไก่ไปสำรองเพิ่มขึ้นทุกครัวเรือน ซึ่งกลุ่มผู้เลี้ยงและผู้ค้าได้จัดระบบส่งไข่ไก่ป้อนเข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง และยืนยันว่าสามารถผลิตไข่ได้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน  ซึ่งจากการตรวจสอบพฤติกรรมผู้ค้าก็ยังไม่พบพฤติกรรมการฉวยโอกาสปรับราคาไข่ไก่สูงขึ้นเกินสมควร แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายใน รวมถึงสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศจะส่งสายตรวจ ลงพื้นที่ตลาดสด หากพบว่ามีการปรับราคาขายปลีกขึ้นไม่สอดคล้องกับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่เกษตรกรขายได้จะดำเนินการตามกฎหมายราคาต่อไป

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความกังวลเรื่องปริมาณไข่ไก่ ที่ไม่เพียงพอ กรมการค้าภายในจะประสานกรมปศุสัตว์เพื่อขอให้พิจารณาชะลอมาตรการปลดแม่ไก่ ซึ่งสามารถยืดอายุการยืนกรงเพื่อให้ไข่ไปได้มากกว่า 80 สัปดาห์ เพื่อให้มีไข่ไก่ออกสู่ตลาดเพียงพอกับความต้องการของประชาชน ด้านการส่งออก ซึ่งมีผู้ส่งออกหลักประมาณ 8 ราย จะร่วมกับกรมปศุสัตว์ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีพฤติกรรมการกักตุนไข่ไก่เพื่อรอส่งออกจริง ก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

——————————————