ตามที่กระทรวงคมนาคม โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดเพิ่มมาตรการด้านสุขภาพอนามัยเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ให้ถือปฏิบัติโดยเร่งด่วนนั้น นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม. กล่าวว่า รฟม. ในฐานะหน่วยงานกำกับผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และสายฉลอง รัชธรรม (MRT สายสีม่วง) มีความห่วงใยในสุขภาพของประชาชน และตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 จึงได้บูรณาการร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้า MRT เพิ่มมาตรการด้านสุขภาพอนามัย และคัดกรองผู้โดยสารภายในพื้นที่ระบบรถไฟฟ้า โดยจัดเจ้าหน้าที่ ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบมือถือ (Hand Held Thermometer) วัดอุณหภูมิ คัดกรองผู้โดยสาร บริเวณจุดตรวจสัมภาระทางเข้าสถานี MRT โดยหากพบผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส จะทำการแจกหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้โดยสารท่านนั้น และขอความร่วมมือผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัย รวมถึงให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพให้แก่ผู้โดยสารท่านดังกล่าว
ทั้งนี้ รฟม. ได้ดำเนินมาตรการต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส COVID-19 อาทิ การเพิ่มความถี่การทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี การเพิ่มการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในขบวนรถไฟฟ้า หลังปิดให้บริการและก่อนเปิดให้บริการทุกวัน และเน้นการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในบริเวณที่ผู้โดยสารต้องสัมผัส เช่น ราวจับภายในขบวนรถ เก้าอี้นั่ง เป็นต้น การจัดให้มีจุดบริการแอลกอฮอล์ล้างมือบริเวณจุดตรวจสัมภาระและห้องออกบัตรโดยสารในสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี นอกจากนี้ ให้มีการดูแลสุขภาพพนักงานที่ให้บริการในสถานีและขบวนรถไฟฟ้า ด้วยการตรวจความพร้อมด้านสุขภาพ ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนการปฏิบัติงานทุกครั้ง และให้พนักงานสวมหน้ากากอนามัยกรณีที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ประชาชนหนาแน่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT
นอกจากนี้ รฟม. ยังให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของบุคลากร ผู้ปฏิบัติงานภายใน รฟม. ด้วยการออกประกาศไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้บุคลากร รฟม.เดินทางไปประเทศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค COVID-19 จนถึงวันที่ 19เมษายน พ.ศ. 2563 หากมีเหตุผลหรือความจำเป็นให้บุคลากร รฟม. แจ้งต่อผู้บังคับบัญชา เพื่อพิจารณา และเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยภายในวันที่ 19 เมษายน 2563 ให้เข้ารับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเชื้อโรค ณ โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานในการคัดกรองและเฝ้าระวัง และรายงานผลการตรวจดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชา หากพบหรือมีภาวะเสี่ยง ให้ผู้บังคับบัญชา พิจารณาสั่งให้ผู้นั้นหยุดปฏิบัติงาน เพื่อรับการรักษาจนหายเป็นปกติ หรือเพื่อเฝ้าดูอาการ เป็นเวลา 14 วัน นับจากวันที่กลับมาถึงประเทศไทย โดยไม่ถือเป็นการขาดงาน และไม่
นับเป็นวันลา นอกจากนี้ในอาคารสำนักงาน รฟม. ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรอง วัดอุณหภูมิ พนักงานและผู้มาติดต่อ และจัดจุดให้บริการแอลกอฮอล์ล้างมือและแจกหน้ากากอนามัยภายในอาคารสำนักงานอย่างทั่วถึง ติดตามรายละเอียดและข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ รฟม. www.mrta.co.th และ เฟซบุ๊กแฟนเพจการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ Call Center รฟม. โทร. 0 2716 4044