จากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงประชาชน ที่จังหวัดนครราชสีมาเมื่อวันที่ 8-9 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิต 30 ราย และบาดเจ็บ 58 รายนั้น ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เปิดเผยว่า ในวันที่เกิดเหตุ มีการนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งในรายชื่อของผู้บาดเจ็บรุนแรงที่เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ได้เข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลเอกชนใกล้เคียงห้างเทอมินอล 21 ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่” หรือ UCEP รวมทั้งสิ้น 11 รายได้แก่ รพ.กรุงเทพราชสีมา จำนวน 4 ราย รพ.เซนต์แมรี่ จำนวน 4 ราย รพ.ริมลิฟวิ่ง จำนวน 2 ราย และ ร.พ.ป.แพทย์ จำนวน 1 ราย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้บาดเจ็บที่เข้าเกณฑ์ UCEP มีการส่งต่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และโรงพยาบาลตามสิทธิการรักษาแล้วจำนวน 6 ราย ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน จำนวน 2 ราย และสามารถกลับบ้านได้ 3 ราย ซึ่งเลขาธิการ สพฉ.กล่าวว่า โดยหลักแล้วผู้ป่วยวิกฤต สามารถใช้สิทธิการรักษาได้ถึง 72 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะพ้นภาวะวิกฤต ซึ่งหลังจากเกิน 72 ชั่วโมงไปแล้ว หากมีผู้บาดเจ็บรายใดยังไม่พ้นภาวะวิกฤต มีความจำเป็นต้องรักษาต่อ ทาง สพฉ.จะ ประสานกับ รพ.เอกชน และหน่วยงานต้นสังกัด อาทิ สปสช. ประกันสังคม ในการดูแลรักษาต่อไป