วันที่ 10 กรกฎาคม 2561 เวลา 12.00 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้จะเป็นช่วงฤดูฝนของประเทศไทย แต่ยังคงมีบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่เกษตรอาศัยน้ำฝนกว่า 120 ล้านไร่ โดยเฉพาะบางจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีปริมาณการกระจายตัวของฝนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่การเกษตร โดยตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องประสบภาวะฝนทิ้งช่วง ทำให้พื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะพื้นที่ปลูกข้าวบริเวณทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมีพื้นที่เขตติดต่อจังหวัดร้อยเอ็ด สุรินทร์ ยโสธร ศรีสะเกษ และมหาสารคาม รวมกว่า 2 ล้านไร่ เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาวะค่อนข้างวิกฤติ อีกทั้งบางพื้นที่เริ่มได้รับความเสียหาย จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จึงได้ปรับแผนการปฏิบัติการฝนหลวงและบริหารการใช้เครื่องบินของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2561 เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับความต้องการใช้น้ำในภาคการเกษตร โดยให้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์ ที่สนามบินสุรินทร์ภักดี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพิ่มเติม 1 หน่วย ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนหลักในพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีเครื่องบินชนิด CARAVAN จำนวน 3 เครื่องประจำการเตรียมพร้อมสำหรับการทำฝน ทำให้ขณะนี้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหน่วยปฏิบัติการจำนวน 4 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดอุบลราชธานี และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์ ที่พร้อมบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยเพื่อระดมความช่วยเหลือพื้นที่ที่ประสบปัญหาเมื่อสภาพอากาศและทิศทางลมเอื้ออำนวย
สำหรับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ได้ปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสระแก้ว ที่สนามบินวัฒนานคร ฝูงบิน 206 อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2561 เป็นต้นไป เนื่องจากขณะนี้ภาคตะวันออกมีการกระจายตัวของฝนค่อนข้างดี ทำให้พื้นที่การเกษตรมีปริมาณน้ำสามารถเลี้ยงตัวได้ในระดับหนึ่งแล้ว จึงได้เคลื่อนย้ายเครื่องบินชนิด CARAVAN จำนวน 3 เครื่องไปสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์ที่กำลังประสบปัญหา ทั้งนี้ หากพื้นที่ภาคตะวันออกประสบปัญหาจะปรับแผนกลับมาตั้งหน่วยปฏิบัติการฯ ตามเดิม
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะเร่งปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรตามที่ได้รับการร้องขออย่างทั่วถึงทุกพื้นที่ทันทีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย โดยจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรที่กำลังเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ ประชาชนและเกษตรกรสามารถแจ้งขอรับบริการฝนหลวงได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในทุกภูมิภาคของประเทศ และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทาง www.royalrain.go.th เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร และการรายงานข่าวการปฏิบัติการฝนหลวงประจำวันทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย!!
***********************************