นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมงกำหนดให้ผู้ประสงค์ทำการประมงพาณิชย์ในน่านน้ำไทย ในรอบปีการประมง 2563 – 2564 กำหนดให้มายื่นคำขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ในต่างจังหวัดยื่นได้ที่ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานประมงอำเภอติดทะเลทุกแห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครยื่นได้ที่สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมประมง ในระหว่างวันที่ 5 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 นี้เท่านั้น หากไม่มีใบอนุญาตฯ จะไม่มีสิทธิทำการประมงพาณิชย์ได้ในรอบปีการประมง 2563 – 2564 นี้
ด้านนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ในรอบปีการประมง 2561– 2562 นั้นกำลังจะสิ้นสุดลง ในวันที่ 31 มีนาคม 2563 กรมประมงจึงได้ออกประกาศกรมประมงเรื่อง กำหนดห้วงเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ ขั้นตอนและเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ สำหรับปีการประมง 2563 – 2564 พ.ศ. 2563 โดยกำหนดห้วงเวลาให้ชาวประมงมายื่นคำขอ พร้อมเอกสารที่จะยื่นประกอบในการยื่นคำขอ สำหรับเครื่องมือที่ขอรับใบอนุญาตฯ นั้น แบ่งได้เป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มเครื่องมือทำการประมงที่มีประสิทธิภาพสูง มีจำนวน 8 เครื่องมือ ได้แก่ อวนลากคู่ อวนลากแผ่นตะเฆ่ อวนลากคานถ่าง อวนล้อมจับ อวนล้อมจับปลากะตัก อวนครอบปลากะตัก อวนช้อน/ยกปลากะตัก และเรือประกอบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (เรือปั่นไฟ) และกลุ่มเครื่องมือทำการประมงที่มีประสิทธิภาพต่ำ จำนวน 14 เครื่องมือ ได้แก่ อวนครอบหมึก อวนช้อนปลาจะละเม็ด อวนติดตา อวนรุนเคย คราดหอยลาย คราดหอยแครง คราดหอยอื่น ลอบปลา ลอบปู ลอบหมึก ลอบหมึกสาย เบ็ดราว แผงยกปูจักจั่น และเบ็ดมือ
เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบในการยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์สำหรับปีการประมง 2563 -2564 ได้แก่
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรับอนุญาต ที่ยังไม่หมดอายุ
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แสดงวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการประมง (กรณีเป็นนิติบุคคล) ที่มีอายุไม่เกิน 3 เดือน
- หนังสือมอบอำนาจ พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีที่มีการมอบอำนาจ)
- หนังสือรับรองสุขอนามัยเรือประมง (สร.3) (เฉพาะเรือประมงที่ใช้เครื่องมือประมงในการจับสัตว์น้ำและเก็บรักษาสัตว์น้ำไว้ในเรือ)
- หนังสือยินยอมให้ใช้เรือประมง (กรณีที่มีการถือกรรมสิทธิ์ร่วมหรือมีสิทธิครอบครองในเรือประมงที่ขอรับอนุญาต)
- แบบแจ้งชื่อเรือประมงที่ผู้ขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง พร้อมทั้งหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในเรือแต่ละลำ (กรณีครอบครองเรือประมงมากกว่า 1 ลำ)เรือประมงที่ต้องแจ้ง ได้แก่ เรือที่ใช้ทำการประมง เรือขนถ่ายเพื่อการประมง เรือบรรทุกสินค้าประมงห้องเย็น เรือบรรทุกน้ำมันเพื่อการประมง เรือบรรทุกน้ำจืด เรือบรรทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีจุดวาบไฟต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส (ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอส แต่ไม่เกิน 1,000 ตันกรอส) หรือเรือบรรทุกผลิตภัณฑ์ที่มีจุดวาบไฟสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส (ขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอส แต่ไม่เกิน 1,000 ตันกรอส) ทั้งเรือประมงไทยและเรือประมงต่างชาติ
- เอกสารหรือหลักฐานที่แสดงว่าคดีอาญาถึงที่สุดแล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่มีความผิด (กรณีขอเครื่องมือประสิทธิภาพสูง ซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ รอบปีการประมง 2561 – 2562)
- เอกสารหรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าได้ใช้เครื่องมืออวนครอบ/ช้อน/ยกปลากระตัก ก่อนการตรวจวัด และจัดทำอัตลักษณ์เรือ (กรณีเรือพื้นบ้านหลังการตรวจวัดมีขนาดตั้งแต่ 10 ตันกรอสขึ้นไป)
- เล่มสำเนาทะเบียนบ้าน/เอกสารหรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงว่าผู้ขอรับใบอนุญาตมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ที่จะขอย้ายฝั่ง (กรณีขอย้ายพื้นที่ทำการประมงเครื่องมือประสิทธิภาพสูง)
- ภาพถ่ายหรือภาพถ่ายดิจิทัลของเรือประมง จำนวน 3 รูป ดังนี้
- ภาพอัตลักษณ์เรือที่เห็นชัดเจน จำนวน 1 รูป
2.) ภาพหัวเรือที่เห็นชื่อเรือ ทะเบียนเรือ (กรณีที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์
อยู่เดิมจะต้องมีเครื่องหมายประจำเรือปรากฏอยู่ในภาพถ่ายด้วย) จำนวน 1 รูป
3.) ภาพถ่ายเรือเต็มลำด้านซ้ายหรือด้านขวา จำนวน 1 รูป
กระทรวงเกษตรฯ ขอเน้นย้ำให้พี่น้องชาวประมงที่ประสงค์จะทำการประมงพาณิชย์ในรอบปีการประมง 2563 – 2564 นี้ มายื่นขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานประมงอำเภอติดทะเลทุกแห่ง และสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมประมง ตั้งแต่วันที่ 5 – 29 กุมภาพันธ์ 2563 เท่านั้น เพื่อเป็นการรักษา“สิทธิ” ของตนเองที่จะสามารถทำการประมงพาณิชย์ในรอบปีการประมงที่จะถึงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่มายื่น จะไม่มีสิทธิออกไปทำการประมง ทั้งนี้ ในการพิจารณาการขอรับใบอนุญาตผู้ขอรับอนุญาตและเรือประมงต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามในการได้รับอนุญาตให้ทำการประมง ส่วนการจัดสรรใบอนุญาตเป็นไปตามแนวทางและหลักเกณฑ์การจัดสรรใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ที่คณะกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติเห็นชอบ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประมงอำเภอ หรือสำนักงานประมงจังหวัดท้องที่ติดทะเลทุกแห่ง หรือที่กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง โทรศัพท์ 0 2561 1418, 0 2561 4689 และ0 2562 0600 เบอร์ภายใน 2101, 2105
……………………………………..