พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ขอให้ประชาชนมั่นใจมาตรการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค เป็นไปตามหลักการสากล ขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข อย่าเชื่อ อย่าแชร์ ข่าวลวง
วันที่ 29 มกราคม 2563 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนำคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อม ป้องกัน และแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งชาติ เยี่ยมชมการปฏิบัติงานด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเยี่ยมชมขั้นตอนการดำเนินงานคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ระบาดของโลก ด้วยเครื่องวัดไข้อัตโนมัติระบบอินฟราเรด (Infrared Thermo Scan) ร่วมกับการใช้ CCTV ซึ่งมีเจ้าหน้าที่จากด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทำงาน 24 ชั่วโมง ที่คัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศทุกคน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้ประชาชน ติดตามสถานการณ์ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะมีการแถลงสรุปเหตุการณ์ ประจำวันทุกวันอย่างต่อเนื่อง สิ่งสำคัญประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือกินร้อน ช้อน กลาง ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ หากปฏิบัติเป็นประจำก็สามารถช่วยลด ความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
“ด้านการจัดการกับข่าวลวง (Fake News) คนที่สร้างข่าวลวงไม่มีความรักชาติ สร้างความเดือดร้อน กดดันให้เจ้าหน้าที่คนทำงาน ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ขอให้รับฟังการแถลงข่าวจากกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ประเทศไทยมีศักยภาพด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค รวมทั้งการรักษาพยาบาล ตามมาตรฐานโลก ซึ่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากจีน เข้ามาในระบบการรักษาของเรา ขณะนี้ มี 14 ราย รักษาหายกลับบ้านไปแล้ว 5 คน ที่เหลืออาการดี รอให้ตรวจไม่พบเชื้อก็จะอนุญาตกลับบ้าน ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ ขณะนี้เราได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ อาทิ ทหาร เข้ามาช่วยทำงาน แม้จะไม่ใช่บุคลากรด้านสาธารณสุข สิ่งที่เราจะดำเนินการต่อขอความร่วมมือประชาชน ช่วยดูแลรักษาความสะอาดบ้านเมือง พื้นที่สาธารณะ ซึ่งความร่วมมือจากประชาชน เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการป้องกันควบคุมโรค