สธ. เผยการตรวจยืนยันผู้ป่วยโรคติดต่ออุบัติใหม่ในไทย ต้องมีผลการตรวจตรงกันจากห้องปฏิบัติการศักยภาพสูง 2 แห่ง และให้ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อพิจารณาสรุปผล

กระทรวงสาธารณสุข เผยการตรวจยืนยันผู้ป่วยโรคติดต่ออุบัติใหม่ในไทย ต้องมีผลตรวจจากห้องปฏิบัติการที่มีศักยภาพสูงตรงกัน 2 แห่ง และให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาสรุป จึงจะสามารถยืนยันผลตรวจได้อย่างน่าเชื่อถือ ซึ่งประเทศไทยได้ยกระดับการดำเนินงานเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคปอดอักเสบที่เกิดขึ้นในประเทศจีน

วันที่ 11 มกราคม 2563 นายแพทย์บัลลังก์ อุปพงษ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวในสื่อบางแห่งว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานผลการตรวจเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากจีนนั้น ขอแจ้งว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ไม่ได้ให้ข่าวดังกล่าว เนื่องจากการรายงานโรคติดเชื้ออุบัติใหม่รายแรกๆ ในประเทศไทย จะต้องมีผลการตรวจยืนยันโดยห้องปฏิบัติการระดับชาติที่ได้รับการรับรองอย่างน้อย 2 แห่ง และผลการตรวจจะต้องให้คณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อพิจารณาประกอบกับอาการผู้ป่วยและข้อมูลทางระบาดวิทยา จึงจะสามารถรายงานยืนยันการวินิจฉัยผู้ป่วยได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติมาตรฐานของประเทศไทย

นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคปอดอักเสบรุนแรงจากไวรัส กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทย มีมาตรการในการคัดกรองโรคผู้โดยสารเครื่องบินในเส้นทางที่บินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน  ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งขณะนี้มีการคัดกรองผู้โดยสาร 6,761 คน เมื่อพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวน (Patient under investigation) คือ มีไข้ อาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ น้ำมูก เจ็บคอ เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง จะถูกนำตัวมายังสถาบันบำราศนราดูรหรือโรงพยาบาลที่มีห้องแยกโรคมาตรฐานเพื่อการดูแลรักษาพยาบาล พร้อมกับเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 2 แห่งขึ้นไป   กรณีทีผู้ป่วยมีผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการสงสัยเชื้ออุบัติใหม่ คณะผู้เชี่ยวชาญจะใช้ข้อมูลนี้ประกอบกับข้อมูลทางคลินิกและข้อมูลทางระบาดวิทยา พิจารณาร่วมกัน ก่อนที่จะสรุปผลการวินิจฉัย

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็งเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งในและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ประชาชนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

*********************************

ข้อมูลจาก : ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค