ผู้ตรวจราชการ ส.ป.ก. ร่วมงานวันเกษตรแห่งชาติ 2563 “นวัตกรรมเกษตรไทย ยิ่งใหญ่ด้วยศาสตร์พระราชา” วันที่ 10–19 มกราคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
นางสาววรรณพร ดอกจำปา ผู้ตรวจราชการกรม (เขตตรวจที่ 9,13,14) เป็นผู้แทนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้ร่วมในพิธีเปิดงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งกำหนดจัดงานวันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี 2563 ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมเกษตรไทย ยิ่งใหญ่ด้วยศาสตร์พระราชา” โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาโปรดให้ นายบุญเชิด กันภัย เป็นผู้แทนพระองค์ ไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา เปิดงาน “วันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี 2563” โอกาสนี้ ผู้แทนพระองค์ ได้มอบถ้วยรางวัลพระราชทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ แก่ผู้ชนะการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ ประเภทวิทยาศาสตร์การเกษตร และประเภทสิ่งประดิษฐ์ จากนั้นกดปุ่มไฟฟ้าเปิดงาน “วันเกษตรแห่งชาติ ประจำปี 2563” และได้เยี่ยมชมนิทรรศการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หน่วยงานภาคี และนิทรรศการความก้าวหน้าเทคโนโลยีการเกษตรจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงหน่วยงานส่วนราชการต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสำราญ สาราบรรณ์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวรายงาน และ ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวความเป็นมาของการจัดงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 เวลา 14.00 น.
การจัดงานครั้งนี้ ได้กำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 10 – 19 มกราคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ มีเป้าประสงค์ของงาน เพื่อเผยแพร่พระกรณียกิจด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งร่วมน้อมนำแนวทางพระราชดำริ มาส่งเสริมพัฒนาชุมชนและสังคมไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญและภาคภูมิใจกับอาชีพเกษตรกรรม การส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร อันเป็นพื้นฐานของการพัฒนาคน พัฒนาองค์ความรู้ และพัฒนาประเทศ ทั้งได้เผยแพร่ความก้าวหน้าทางวิชาการและผลงานวิจัยด้านการเกษตร ถ่ายทอดให้นักเรียน นักศึกษา ประชาชนและผู้สนใจ
ในปีนี้…ทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เข้าร่วมจัดนิทรรศการ ซึ่งการจัดนิทรรศการได้จำแนกพื้นที่เป็น 2 ภาคส่วน คือ
1.) นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ได้นำเสนอนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “พระบิดาแห่งการวิจัยและพัฒนาข้าวไทย” และ “พระบิดาแห่งฝนหลวง”ตลอดจน นิทรรศการศาสตร์พระราชา อาทิ การปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง การจัดการทรัพยากรน้ำ การพัฒนาที่ดิน การปลูกพืช ทั้งการปลูกไม้ผล การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การปลูกยางพารา การปรับปรุงพันธุ์พืช ระบบการเกษตร และด้านการปศุสัตว์
2.) นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมด้านการเกษตรกรรม อันเป็นอาชีพหลักของราษฎร และเป็นการสานต่อพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9
สำหรับภารกิจการจัดนิทรรศการของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในครั้งนี้ ได้จัดกิจกรรมนวัตกรรมเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดิน สืบสานตามศาสตร์พระราชา ได้เรียนรู้ศึกษานวัตกรรมเกษตรมากมาย อาทิ IOT : สิ่งหนึ่งที่จะทำให้คนรุ่นใหม่ หันมาสนใจการเกษตร เพราะช่วยบริหารจัดการพื้นที่ ลดเวลา ลดแรงงาน ลดต้นทุน และทันสมัย กับภาคการเกษตร โรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ โรงเรือนกางมุ้ง เครื่องสับย่อยพืชอาหารสัตว์และวัสดุการเกตร เครื่องกลั่นน้ำมันหอมระเหย เคริ่องซิลสูญญากาศ ระบบสวนครัวน้ำหยด สินค้าเกษตรอินทรีย์และผลิตภัณฑ์สมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน เป็นต้น
ในส่วนของนิทรรศการภาควิชาการ ได้นำเสนอความสำเร็จของกลุ่มเกษตรกร เช่น กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ที่ชนะเลิศการแข่งขันระดับประเทศ รายการแข่งขันเกมเกษตรกร รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในภาคเกษตร ไม่ว่าจะเป็น โดรนพ่นสารชีวภัณฑ์ โดรนสำรวจเพื่อทำแผนที่การบริหารจัดการน้ำ ตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ (DGT FARM) ระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร เครื่องหมายรับรองสินค้าเกษตรปลอดภัย แอพพลิเคชั่นฟาร์มดี การบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตรที่สำคัญ นวัตกรรมผ้าไหมและผลิตภัณฑ์จากหม่อนไหม การปรับโครงสร้างการผลิตปศุสัตว์ตลอดห่วงโซ่อุปทาน นวัตกรรมของปราชญ์ชาวบ้าน รวมถึงการสร้างผู้นำต้นแบบรุ่นใหม่ ในสหกรณ์ (Smart Cooperative Directors) นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำโมเดลจำลอง ทั้งในเรื่องของการจัดตั้งตลาด อ.ต.ก.โรงทอ จอหอ ตลาด Farmer Market ระบบการจัดการฟาร์มโคเนื้อแบบประณีต รวมถึงการทำอาชีพเสริมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การเพาะเลี้ยงปลานิลครบวงจร การเลี้ยงปลานิล/ปลาตะเพียน/กบ ในนาข้าว การส่งเสริมการเลี้ยงโคนม นำไปสู่การแสดงเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในพื้นที่ราบทุ่งกุลาร้องไห้ พื้นที่ราบทุ่งสัมฤทธิ์ ทั้งการปรับปรุงดินเค็มปานกลางเพื่อปลูกข้าวและไร่นาสวนผสม การปรับปรุงดินเค็มจัดด้วยไม้ทนเค็มและหญ้าเลี้ยงสัตว์สร้างรายได้ กิจกรรมสาธิตและฝึกอบรมให้ความรู้ควบคู่การปฏิบัติจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และซุ้มจำหน่ายสินค้าของเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ชวนชิม ผัดหมี่โคราช ผงชงดื่มจากจมูกข้าว เครื่องดื่มคอมบูชา (Kombucha tea) เป็นเครื่องดื่มชาหมักร่วมกับข้าวที่มีสี จะได้รสชาติที่แปลกใหม่ มีกลิ่นเฉพาะ รวมถึงคุณประโยชน์ทางโภชนาการ ช้อป สินค้าทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์จากภาคต่างๆ ที่จำหน่ายสินค้าที่หาซื้อได้ยากในท้องตลาด เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากข้าว ข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวกล้อง ข้าวฮาง รวมถึงผลิตผลทางการเกษตรต่างๆ ทั้งผักปลอดสารเคมี ผลไม้ และสินค้าแปรรูป อาทิเช่น ปลาแดดเดียว ปลาทูหอม ขนมจีนน้ำยาปลากะพง กะปิหอมเคยอ่าว น้ำพริกทะเล สินค้าแปรรูปหม่อนไหม การจำหน่ายผลผลิตจากกลุ่มเกษตรกรจากสวนลุงไกล มะขามเทศพันธุ์เพชรโนนไทย เมล่อนจากเกษตรกรอำเภอขามสะแกแสง ผ้าไหมที่ได้รับรองเครื่องหมายตรานกยูงพระราชทาน ผลิตภัณฑ์จากไหมและรังไหม จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องจักรสานจากหญ้าแฝก และ เชิญถ่ายภาพที่สวยงามตื่นตาตื่นใจที่ได้นำกลิ่นอายของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตเกษตรกรรมในชนบท ทั้งปราสาทข้าวขนาดยักษ์ ชุดแสดงผีตาโขน ตุงใยแมงมุม เพื่อให้ประชาชนร่วมชมงานและได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น