โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กรมชลประทาน จัดกิจกรรมเขื่อนลำปาวพบปะเกษตรกร ครั้งที่ 1/2563 โดยมีกลุ่มผู้ใช้น้ำและเกษตรกรในพื้นที่ ร่วมเวทีรับฟังปัญหา และอุปสรรคเกี่ยวกับการใช้น้ำในเขื่อนลำปาว ช่วงการส่งน้ำฤดูแล้งปี 62/63 ณ คลองฮีโร่ บ้านโพธิ์ไทร ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยหลังจากได้รับการรายงานจาก นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ ว่า ปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำกักเก็บ 1,356 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 68 ของความจุอ่างฯ โดยขณะนี้ได้ทำการระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำและส่งน้ำเข้าระบบคลองส่งน้ำชลประทานวันละประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร เกษตรกรในพื้นที่ชลประทานได้ทำการเกษตรไปแล้วประมาณ 264,934 ไร่ แบ่งเป็นปลูกข้าวนาปรัง 259,894 ไร่ บ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกราม 3,348 ไร่ บ่อปลา 1,495 ไร่ และพืชไร่พืชผัก 197 ไร่ ด้านผลการปลูกข้าวนาปรังในปีนี้ คิดเป็นร้อยละ 95 จากแผนการเพาะปลูกที่วางไว้ ถือว่าปีนี้เกษตรกรทำนาปรังเร็วกว่าในทุกปี คาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ของเดือนมกราคม พื้นที่นาปรังจะครบ 100% ตามแผนที่วางไว้ ซึ่งในปีเกษตรกรได้ให้ความร่วมมือในการใช้น้ำเป็นอย่างดี ทั้งการร่วมกันทำความสะอาด และกำจัดวัชพืชในคลอง ทำให้การส่งน้ำไปอย่างพื้นที่การเกษตรทำได้ดี ส่วนในพื้นที่การเลี้ยงกุ้งก้ามกราม นั้น เขื่อนลำปาวยังคงสามารถส่งน้ำได้ตามปกติ แต่ขอให้เกษตรกรวางแผนการเลี้ยงกุ้ง และติดตามข่าวสารจากเขื่อนลำปาว ว่าจะมีการหยุดการส่งน้ำช่วงใด ซึ่งหลังจากช่วงสงกรานต์ปีนี้ เขื่อนลำปาวจะหยุดการส่งน้ำตามแผน จึงขอให้เกษตรกรที่เลี้ยงกุ้ง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำหลังจากเขื่อนหยุดการส่งน้ำแล้ว
นอกจากเขื่อนลำปาวจะส่งน้ำเพื่อการเกษตรให้กับพื้นที่รับน้ำแล้ว ยังมีแผนดำเนินการผันน้ำจากเขื่อนลำปาว ไปช่วยเขื่อนอุบลรัตน์ที่มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยจะทำการระบายน้ำลงน้ำปาว ไปยังแม่น้ำชี ประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร จากนั้นจะสูบน้ำส่วนนี้ย้อนกลับจากท้ายเขื่อนวังยางไปเก็บกักไว้หน้าเขื่อนวังยาง เพื่อช่วยเหลือการประปาในพื้นที่อำเภอเมืองมหาสารคาม ซึ่งเดิมใช้น้ำต้นทุนจากเขื่อนอุบลรัตน์ แนวทางดังกล่าวจะเป็นการช่วยให้เขื่อนอุบลรัตน์ลดปริมาณการใช้น้ำได้ถึง 6 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่หน้าเขื่อนวังยางแล้ว คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในช่วงสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอความร่วมมือเกษตรกรใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่าและแบ่งปัน รวมทั้งปฏิบัติตามแผนการจัดสรรน้ำที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยในช่วงนี้ขอความร่วมมือห้ามเปิด-ปิด หรือปรับบานอาคารในคลองส่งน้ำ หากพบปัญหาในการรับน้ำหรือส่งน้ำ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ของฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาในพื้นที่ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่ออาคารชลประทาน และอาจส่งผลกระทบต่อการส่งน้ำ รวมทั้งห้ามทุบ ทำลาย แก้ไข อาคารชลประทาน หรือนำวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ กั้นในคลองส่งน้ำ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งน้ำในภาพรวม หากพบเห็นอาคารชลประทานชำรุด สามารถแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ชลประทานในพื้นที่เพื่อดำเนินการแก้ไขโดยด่วน
————————————————————————
กรมชลประทาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์