แพทย์แผนไทยแนะนำประชาชนกิน “ขิง” สมุนไพรฤทธิ์ร้อน ปรับตัวรับหน้าฝน พร้อมแนะกินอาหารตามช่วงฤดูกาล ฤดูฝนเน้นอาหารที่มีรสเผ็ด ร้อน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัด มันจัด จะส่งผลให้เจ็บป่วยง่ายขึ้น
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัยลักษณะอากาศของประเทศไทยช่วงนี้ว่าจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง จากสภาพภูมิอากาศดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้ง่าย หากร่างกายอ่อนแอ มักจะป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะอย่ายิ่งอาการของโรคหวัด จากการติดเชื้อไวรัส มีอาการแสบคอ เจ็บคอ จึงอยากแนะนำสมุนไพรที่เป็นทั้งอาหารและเป็นยา อยู่คู่กับคนไทยมานาน คือ ขิง ซึ่งเป็นสมุนไพรที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดี และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะรสและกลิ่น จากการศึกษาวิจัยพบว่า ขิง มีน้ำมันระเหยง่าย (volatile oil) และสารสำคัญหลายชนิดที่ทำให้ขิงมีกลิ่นฉุน รสเผ็ดร้อน ขิงช่วยแก้หวัด บรรเทาอาการน้ำมูกไหล อาการคลื่นเหียน เจ็บคอ ไอ และมีเสมหะ
สมุนไพรขิงรับประทานได้ทั้งสดและแห้ง หากต้องการรับประทานขิงสด สามารถใช้ขิงแก่ขนาดประมาณ 2 หัวแม่มือ หรือน้ำหนัก 5 กรัม ล้างให้สะอาด ทุบให้แตก ต้มดื่มครั้งละ 1/3 ถ้วยแก้ว วันละ 3 ครั้ง หลังอาหาร หรือฝานขิงสด 4 -5 แว่น เคี้ยวกิน หรือชงเป็นชาดื่ม โดยนำขิงมาปอกเปลือกล้างให้สะอาด หั่นเป็นแว่นใส่หม้อที่เตรียมน้ำไว้ ตั้งไฟต้ม จนเดือด ยกลง กรองเอาขิงออก ชิมรสตามชอบ ดื่มวันละ 3-4 ครั้ง ข้อควรระวังสำหรับการใช้ขิง ควรระมัดระวังการใช้ร่วมกับยาในกลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด (anticoagulant) ยาละลายลิ่มเลือด (antiplatelet) และผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการจับตัวของเกล็ดเลือด และไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหานิ่วในถุงน้ำดี