กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดประชุมชี้แจงนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ รุดขับเคลื่อน ส่งเสริมรายได้จากธุรกิจบริการสุขภาพอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดงานประชุมชี้แจงนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ณ โรงแรม ทีเค พาเลซ แอนด์คอนเวนชั่น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ผู้รับผิดชอบงานด้านคุ้มครองผู้บริโภค งานสุขภาพภาคประชาชน และงานพัฒนาคุณภาพ ในกลไกการขับเคลื่อนการดำเนินงาน และตัวชี้วัดที่สำคัญของการคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพ และระบบสุขภาพภาคประชาชน เพื่อสามารถนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพทุกระดับ และรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานการคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพ และระบบสุขภาพภาคประชาชนในพื้นที่จากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปพัฒนานโยบาย กลไก และรูปแบบการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยการประชุมครั้งนี้ มีการชี้แจงนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ การมอบประกาศนียบัตรมาตรฐานศูนย์เครื่องมือแพทย์ในโรงพยาบาล ระดับพัฒนาดีเด่น มีการนำเสนอผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัด 2562 และชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานการดำเนินงานของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ 3 ด้าน คือ 1) งานมาตรฐานระบบบริการสุขภาพ 2) งานคุ้มครองผู้บริโภคด้านระบบบริการสุขภาพและการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และ 3) งานสุขภาพภาคประชาชน
นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีกลไกในการขับเคลื่อนโดยให้หน่วยงานในพื้นที่ เช่น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ร่วมกันดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดี ขับเคลื่อนงานร่วมกันในการผลักดันให้มีมาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคที่ครอบคลุมทุกภาคส่วน พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนของผู้ที่ทำงานเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขพัฒนากระบวนงาน โดยในปี 2563 ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมยกระดับสถานพยาบาลเอกชนให้มีความเป็นสากล นวดของไทยที่จะได้รับการยอมรับเป็นมรดกโลก ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับประเทศ พร้อมส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ ตอบโจทย์นโยบาย medical hub อุตสาหกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในธุรกิจบริการสุขภาพในประเทศไทย และพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เป็นหมอประจำบ้าน ให้ประชาชนทุกพื้นที่ ทุกชุมชนมีสุขภาพที่ดีต่อไป