ประเทศไทย วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 9,539 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 336,371 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 7,113 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 103 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 18 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 2,305 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 91,841 ราย)
เสียชีวิตรวม 2,711 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 86 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 247,971 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 4,053ราย) รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 85,689 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 9,418 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(2,741) ปริมณฑล (2,801) จังหวัดอื่น ๆ (3,876)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 18 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่ตาก(1) เชียงราย(1) อยู่ระหว่างประสาน(2) สมุทรปราการ(1) สระแก้ว(6)ตากและ จันทบุรี(7) มีรายละเอียดดังนี้
– จากประเทศกัมพูชา 13 ราย
– จากประเทศเมียนมา 2 ราย
– จากประเทศสหราชอาณาจักร 1 ราย
– จากประเทศบังคลาเทศ 2 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
– ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 187.2 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 2.16 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 171.2 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 91.44)
– สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,535 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 622,821 ราย
– อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 30.8 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 41,475 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 29.9 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.1
– ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 61 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 83 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
– เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 188,752 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,667 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,756 ราย
– มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 827,191 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 9,353 ราย
– กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 59,978 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 881 ราย
– ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 2,630 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 453 ราย
– เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 1,853 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 112 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรคและศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม