ประเทศไทย วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 4,786 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 259,301 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 3,303 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 127 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 9 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 1,347 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 70,728 ราย)
เสียชีวิตรวม 2,023 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 53 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 207,479 ราย
(มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 2,415 ราย) รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 49,799 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 4,650 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(1,826) ปริมณฑล (1,209) จังหวัดอื่น ๆ (1,615)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 9 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่ กรุงเทพฯ(1) ตาก(2) สระแก้ว(1) และ จันทบุรี(5) มีรายละเอียดดังนี้
– จากประเทศกัมพูชา 7 ราย
– จากประเทศเมียนมา 2 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
– ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 182.5 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 3.9 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 2.17 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 167 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 91.56)
– สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,427 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 619,980 ราย
– อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 30.3 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 45,699 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 29.4 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 96.8
– ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 73 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 88 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
– เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 155,697 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 922 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,320 ราย
– มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 745,703 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 6,437 ราย
– กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 49,255 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 575 ราย
– ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 2,110 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 121 ราย
– เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 372 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 80 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรคและศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม