ประเทศไทย วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 2,290 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 189,828 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 1,334 ราย
-เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 294 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 30 ราย
– เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 632 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 52,735 ราย)
เสียชีวิตรวม 1,402 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 27 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 144,998 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 5,711 ราย) รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 43,428 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 1,966 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(942) ปริมณฑล (506) จังหวัดอื่น ๆ (518)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 30 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่กรุงเทพฯ(2) สงขลา(1) ชลบุรี(15) จันทบุรี(8) และ สระแก้ว(4) มีรายละเอียดดังนี้
– จากประเทศสหราชอาณาจักร 1 ราย
– จากประเทศอินโดนีเซีย 1 ราย
– จากประเทศอิหร่าน 1 ราย
– จากประเทศซาอุดิอาระเบีย 15 ราย
– จากประเทศกัมพูชา 12 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
– ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 175.6 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 3.7 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 2.16 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 159 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 90.62)
– สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 14,880 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 614,007 ราย
– อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 29.2 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 91,266 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 27.7 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 94.8
– ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 79 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 94 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
– เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 144,876 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 133 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 3,237ราย
– มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 639,562 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 5,671 ราย
– กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 36,666 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 300 ราย
– ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 1,975 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 165 ราย
– เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 219 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 55 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรคและศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม